“สารวัตรบอย”ฝีเท้าไม่ธรรมดากับกีฬา”ฟุตบอล”

 

ารวัตรบอย-พ.ต.ต.สมพงษ์ เอกวัฒ  สว.สรฟ.ศิลาอาสน์ กก.2 บก.รฟ.  พื้นเพเป็นคนชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จากโรงเรียนพรหมาณุสรณ์ ก่อนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เขาก้าวสู่แวดวงสีกากีด้วยการสอบเข้ารับราชการตำรวจบุคคลภายนอก ในตำแหน่งพิสูจน์หลักฐาน นักวิทยาศาสตร์เคมี ชีววิทยา สบ 1 เมื่อปี 2549 เป็นระยะเวลา 6 ปี ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งรองสารวัตรตำรวจทางหลวง อีก 2 ปี และได้รับการเลื่อนชั้นระดับสารวัตร ตำรวจรถไฟศิลาอาสน์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

นายตำรวจหนุ่ม อธิบายถึงการทำงานและหน้าที่ของตำรวจรถไฟศิลาอาสน์ ที่มีพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่สถานีรถไฟศิลาอาสน์ ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ยาวไปถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ กว่า 260 กิโลเมตร โดยมีหน้าที่ปราบปราม สืบสวน ดูแลความปลอดภัยต่อประชาชน และผู้โดยสาร รวมถึงตรวจสอบผู้กระทำผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเสพติดอีกด้วย

เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟศิลาอาสน์สามารถ จับกุมชาวเขาลักลอบขนยาเสพติดชนิดยาบ้าจำนวนกว่า 10,800 เม็ด หลังจากออกตรวจค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายบนขบวนรถเร็วขบวนที่ 102 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ขณะที่วิ่งระหว่างสถานีรถไฟบ้านด่าน-สถานีรถไฟศิลาอาสน์ ต.น้ำริด อ.เมืองอุตรดิตถ์

 

นอกจากนี้ตำรวจรถไฟศิลาอาสน์ ยังได้ทำงานร่วมกับตำรวจคอมมานโด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม ในโครงการ “โปลิศอินเทรน”(Police in train) เพื่อป้องกันปราบปรามเหตุอาชญากรรมบนรถไฟ และประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางแก่ประชาชนผู้โดยสาร สร้างความอุ่นใจในการเดินทาง ตลอดถึงการบริการสุภาพสตรีและเด็ก (Ladies and Children Car) บนขบวนรถไฟ ในเส้นทางรถไฟสายเหนือ รวมถึงการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ ในโครงการ CCOC ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาก็สามารถทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ไปแล้วกว่า 20 ราย”สารวัตรบอย อธิบายอย่างภาคภูมิใจ

นอกเหนือจากตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้ว เขายังเป็นอีกคนที่ชื่นชอบหลงใหลการเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล เขาใช้กีฬานี้เป็นกิจกรรมออกกำลังกาย เสริมสร้างมิตรภาพ ความสามัคคี เมื่อว่างเว้นจากการปฏิบัติหน้าที่ก็จะรวมกลุ่มเพื่อตำรวจเล่นฟุตบอล สำหรับฝีเท้าของสารวัตรบอยต้องบอกเลยว่า ไม่ธรรมดา

เพราะเขาได้รับฉายาว่า “กองหลังรถถัง” หรือ “Center back Tank” ปราการด่านสุดที่มากด้วยทักษะและความแข็งแกร่ง ยากที่คู่แข่งจะผ่านเข้าไปพังประตูได้ และยังได้เล่นฟุตบอลให้กับทีม กู๊ดบอย เอฟซี (Good Boy FC) เป็นทีมที่รวมเพื่อนๆตำรวจ รวมถึงข้าราชการสายงานต่างๆ  “สำหรับทีม กู๊ดบอย เอฟซี เป็นทีมที่รวมเพื่อนๆตำรวจ ข้าราชการ หลายหน่วยงานเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และมิตรไมตรีต่อกัน บางครั้งก็มีการแข่งขันระหว่างทีม สร้างความท้าทายและความสนุกสนานมากขึ้น แต่ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน สำหรับฉายากองหลังรถถังที่ได้มานั้น เนื่องจากผมเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่แต่ไม่สูง หรือเรียกอีกอย่างว่ามะขามข้อเดียว บวกกับผมมีความแข็งแรงจนเบียดคู่แข่งเสียหลักมาหลายต่อหลายครั้ง และผลงานการการันตีฝีมือ ก็เคยได้แชมป์สมัยตอนที่เคยอยู่ตำรวจทางหลวง กับแชมป์การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 2 ของศาลยุติธรรม และรางวัลภายในหน่วยงานต่างๆอีกมากมายในระดับต้นๆ”นายตำรวจหนุ่มพูดด้วยความร่าเริงและยิ้มแย้ม

เจ้าตัวย้ำว่า นอกเหนือจากการรับราชการตำรวจที่รักและเคารพในเกียรติกับศักดิ์ศรีแล้ว ยังมีดวงใจเป็นศรีภรรยาอย่าง พ.ต.ต.หญิงศิรินทิพย์ พลซา นวท.สบ 2 กชว.พฐก. ชาวจังหวัดเลย  มีสักขีพยานรักร่วมกัน 2 คน คือน้องกันน์ วัย 2 ขวบ และน้องปันน์ วัย 1 ขวบ ซึ่งใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันมาบนทางเดินสีกากีที่ต้องเป็นผู้เสียสละด้วยภาระหน้าที่แบบนี้ได้ ด้วยคติที่ว่า ทำวันนี้ให้ดีพอ

RELATED ARTICLES