สืบเนื่องในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนมีนาคม 2565 มีแก๊งคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์มากกว่า 16 ครั้ง ในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานตอนเหนือสร้างความเดือดร้อนและความหวาดผวาและความรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมากกับประชาชน
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุร่วมกันสืบสวนสอบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย กระทั่งทราบว่า แผนประทุษกรรมของคนร้ายจะคล้ายกันคือ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการกระทำผิดมาดัก หรือซุ่มรอเหยื่อแล้วลงมือก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ หรือกระเป๋าเงิน หากเหยื่อต่อสู้จะทำร้าย ข่มขู่เพื่อให้ได้ทรัพย์ไป ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบจำนวนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปรวมแล้วเป็นทองคำรูปพรรณ หนักรวม 43 บาท มูลค่าประมาณ 1.3 ล้านบาท พระเครื่องเลี่ยมทองคำหลายองค์ โทรศัพท์มือถือ เงินสดและทรัพย์สินอื่นๆอีก รวมมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาทเศษ
ต่อมาแกะรอยจนรู้ตัวคนร้าย คือ นายจิรเมธ กระสินธ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และ นาย สุชาติ แจ่มสว่าง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/9 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดสว่างแดนดินอนุมัติออกหมายจับและติดตามตัวทั้งคู่ได้ที่จังหวัดชลบุรี พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ เช่น รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทา-น้ำเงิน ทะเบียน 7 กส 7262 ชลบุรี รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ อีกคัน พระหลวงปู่ทวด และพระครูเทพโลกอุดรเลี่ยมทอง รวม 2 องค์ และเสื้อกางเกงตัวที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ รับสารภาพตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 16 ครั้งในหลายจังหวัดอีสานเหนือ ตั้งแต่หนองคาย อุดรธานี และสกลนคร