ที่สถานีตำรวจภูธรชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจในสังกัด โดยมี พล.ต.อ.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ที่ปรึกษา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรอต้อนรับ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชากาารตำรวจแห่งชาติ กำชับการปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายสืบสวนและป้องกันปราบปราม เน้นให้ฝ่ายสืบสวนและป้องกันปราบปรามร่วมบูรณาการในการก้าวสกัดจับคนร้ายที่หลบหนี พร้อมประเมินระดับขีดความสามารถของคนร้ายก่อนเข้าระงับเหตุ เพื่อที่จะได้เข้าระงับเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อตัวผู้ปฏิบัติเอง ขณะเดียวกันในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์จะต้องมีอุปกรณ์พร้อมสำหรับปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืน กุญแจมือ เสื้อเกราะกันกระสุน ไฟฉาย กล้องบันทึกเหตุการณ์ ไม้ง่าม ที่ห้ามล้อรถ ย้ำให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ พร้อมให้มีการทดสอบการเข้าระงับเหตุของเจ้าหน้าที่สายตรวจ อยู่เป็นประจำ เพื่อให้สามารถจดจำและปฏิบัติได้ทันทีเมื่ออยู่ในสถานการณ์จริง
ต่อมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ทดสอบการเข้าระงับเหตุของสายตรวจสถานีตำรวจภูธรชะอำ ตามสถานการณ์สมมติที่กำหนดให้ พร้อมให้คำแนะนำ อบรม สั่งสอน ให้ข้อคิดในการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์เฉพาะหน้า การตัดสินใจแก้ไข กำชับให้ ถอดบทเรียนในเหตุการณ์ตำรวจบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ทั้งฝ่ายสืบสวน และ ฝ่ายป้องกันปราบปราม ต้องมีความเข้าใจในขั้นตอนและยุทธวิธีในการปฏิบัติ หัวหน้าสถานีต้องบริหารเหตุการณ์ และให้มีการฝึกทบทวนทุกสายงาน อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
