ตั๊น-จิตภัสร์ ลงช่วยหาเสียงภูเก็ตชูเขตเศรษฐกิจทันสมัย

ที่ตำบลวิชิต และตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส. จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรค ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ได้เดินมาช่วยเสียงให้นายกวี ตันสุคตานนท์ เขตเลือกตั้งที่ 1 หมายเลข 10 น.ส.พลอยทะเล รัศมีแสงจันทร์ เขตเลือกตั้งที่ 2 หมายเลข 10 และนายชัยยศ ปัญญาไวย เขตเลือกตั้งที่ 3 หมายเลข 11 มีประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

นางอัญชลี วานิช เทพบุต กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองอายุกว่า 77 ปี มีอุดมการณ์ชัดเจน ที่ผ่านมารับใช้ประชาชนจังหวัดภูเก็ตและประเทศในยามวิกฤติมาโดยตลอด เชื่อมั่นว่าชาวภูเก็ตยังคงให้ความไว้วางใจผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ และมั่นใจว่าจะสามารถปักธงได้ทั้ง 3 เขต

ด้าน น.ส.พลอยทะเล รัศมีแสงจันทร์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 กล่าวว่า อยากผลักดันให้ภูเก็ต เป็นเขตเศรษฐกิจทันสมัย บริหารจัดการโดยซุปเปอร์บอร์ด สภาเศรษฐกิจภูเก็ตที่มีคณะกรรมการจากส่วนกลาง คณะรัฐมนตรี มีราชการส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด ภาคประชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิ บริหารภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาจากคณะชุดนี้ เพื่อพัฒนาภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวระดับโลกไปสู่ศูนย์กลางเมืองดิจิตอลเทคโนโลยี ศูนย์กลางทางการเงิน เพื่อสนับสนุนให้ภูเก็ตต่อยอดทางเศรษฐกิจไปสู่ธุรกิจทันสมัย เช่นประเทศสิงคโปร์ได้ เพราะช่วงโควิดภูเก็ตตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก จังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว หากใช้แนวทางนี้ก็จะสามารถพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พัฒนาต่อยอดการให้บริการทางสุขภาพ มีโรงพยาบาลที่ครบวงจร เช่นเดียวกับเรื่องของมหาวิทยาลัยอันดามัน สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นนโยบายหลักๆที่เตรียมไว้สำหรับคนภูเก็ต

ส่วน น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร เสริมว่า ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ผู้สมัครและแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในภูเก็ตอย่างทั่วถึง ทั้งในเรื่องของวัคซีน ปัญหาปากท้อง มีการปรับลดราคาไข่ไก่ อีกทั้งยังมอบได้ข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องอุปโภคบริโภค ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามชุมชนอีกด้วย สำหรับนโยบายชาวประมงในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขของ IUU แต่ด้วยนโยบายปลดล็อกประมงพาณิย์ ภายใต้ IUU จะเป็นการพลิกฟื้นธุรกิจประมงไทยให้กลับมาสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาลอีกครั้ง ภายใต้การปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สากลยอมรับ และนโยบายประมงท้องถิ่น รับ 100,000 บาท ทุกปี จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชาวประมงท้องถิ่น ที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญของไทย ให้เกิดการพัฒนาต่อยอดอาชีพอย่างต่อเนื่อง

RELATED ARTICLES