ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจ บก.น.2 และโรงพักสายไหม

 

ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และทุนการศึกษาแก่บุตรตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 โดยมี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สมนึก น้อยคง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.จิระสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรบุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สยาม บุญสม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมต้อนรับ

สำหรับกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เคยเป็นสถานที่ทำงานของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ในปี 2554 ท่ามกลางปัญหาน้ำท่วมและการชุมนุมประท้วง ตำรวจต้องคอยดูแลช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤติจนผ่านพ้นไปด้วยดีได้รับความชื่นชมจากประชาชนเพราะความร่วมมือของตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ทุกนาย ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ได้สักการะพระพุทธรัชมงคลบดีศรีประชาพิทักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วยก่อนที่จะขึ้นแท่นรับความเคารพ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ มอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจในสังกัด  260 ทุนก่อนเรียกประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยที่ห้องประชุม

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ยังกล่าวขอบคุณข้าราชการตำรวจในนครบาลทุกนาย แม้จะมีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก ภาระงานที่มากที่สุดของประเทศ แต่ที่ผ่านมาทำงานได้เป็นอย่างดี ขอให้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน ทั้งการตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อย ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การช่วยเหลือประชาชน การบันทึกข้อมูล เพื่อบริหารจัดการงานต่างๆ เน้นการดึงเอาภาคประชาชนอย่างคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการบริหารงานตำรวจเข้ามามีส่วนร่วม สนับสนุนช่วยเหลือการทำงาน และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่มีอยู่ตามชุมชน ต้องใช้ชุมชนยั่งยืนเข้มแข็งแก้ไข ให้ยาเสพติดหมดไป ออกนอกพื้นที่ให้ได้ ให้ชุมชนสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เกิดความยั่งยืนทั้งระบบ มีการดูแลสวัสดิการตำรวจในนครบาลที่ต้องตรากตรำทำงานอย่างหนัก ทั้งการซ่อมแซมแฟลตอาคารที่พัก จัดหาแฟลตเพิ่ม ให้ทุนการศึกษาตำรวจ และบุตรข้าราชการตำรวจ รวมทั้งสวัสดิการด้านอื่นๆ

นอกจากนี้ คดีออนไลน์ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากในนครบาลที่ระบาดอย่างหนัก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กำชับต้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พนักงานสอบสวนไม่เกี่ยงรับคดี ให้มีกองบัญชาการและกองบังคับการลงมาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติของโรงพัก มีการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้าอย่างต่อเนื่อง และจัดแถลงข่าวประขาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ต้องทำให้ตำรวจนครบาลทุกนายเป็นครูไซเบอร์ รวมทั้งดึงเอาภาคประชาชน ส่วนราชการมาร่วมให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันวัคซีนไซเบอร์ ให้ประชาชนรู้ทันภัยโกงออนไลน์รูปแบบต่างๆ ทุกกองบังคับการต้องมีการวิเคราะห์สภาพอาชญากรรม คดีออนไลน์ในพื้นที่ เพื่อปราบปรามและหาวิธีการป้องกัน เช่น การประสานคอนโด อพาร์ตเมนต์ ประชาสัมพันธ์ ติดคิวอาร์โค้ด ให้ความรู้กลโกงต่างๆ ให้ทั่วถึง เข้าถึงประชาชนโดยเร็ว สะดวก และมากที่สุด

ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่ตำรวจโรงพักสายไหม เดิมตั้งอยู่ที่อาคารพาณิชย์ ซอยสายไหม 6 คับแคบ ประชาชนเข้าออกมาใช้บริการไม่สะดวก  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เห็นว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนและตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรจะหาสถานที่ก่อสร้างโรงพักแห่งใหม่ ได้ใช้ความพยายาม ทุ่มเท อุตสาหะ หลายต่อหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง พระครูโสภณภัทรเวทย์ หรือพระอาจารย์อ๊อด ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ไม่ละความพยายามเข้าไปกราบขออีกครั้ง ความสำเร็จจึงเกิดขึ้น นับว่าเป็นความเมตตาของพระครูโสภณภัทรเวทย์ และเป็นความทุ่มเท อดทนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ที่ทำให้สถานีตำรวจนครบาลสายไหมย้ายไปยังสถานที่ปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ได้กราบนมัสการพระครูโสภณภัทรเวทย์ มอบวัตถุมงคลแก่ตำรวจ และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติบนสถานีตำรวจ พบปะประชาชน และตรวจเยี่ยมอาคารที่พักของตำรวจโรงพักสายไหม พร้อมสั่งการให้ปรับปรุงที่สันทนาการภายในสถานีเพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชน ก่อนให้โอวาทใจความตอนหนึ่งว่า  “ หน้าที่สำคัญที่สุดของพวกเรา คือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบ หรือนอกเครื่องแบบ ไม่ว่าจะในหรือนอกเวลาราชการ ในสายตาประชาชนเราก็เป็นตำรวจอยู่ดี เราต้องทำตัวให้เป็นที่พึ่ง ขอให้พวกเราภาคภูมิใจกับอาชีพ ตำรวจเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ เป็นอาชีพที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าตำรวจนครบาล จะเหน็ดเหนื่อย ทำงานหลากหลายภารกิจมากที่สุด แต่ว่าเมื่อเราตั้งใจมาเป็นตำรวจแล้ว ขอให้มีทัศนคติว่าเราต้องทำงานอย่างมีความสุข จากการที่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชน ทุกสายงานมีความสำคัญหมดทั้งป้องกันปรามปราม สืบสวนสอบสวน จราจร สายอำนวยการที่คอยสนับสนุนข้อมูล ต้องช่วยกันเพื่อช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาประชาชนในพื้นที่ ขอให้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก ศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หมั่นทบทวนยุทธวิธี มีการวางแผนการทำงาน ทบทวนการปฏิบัติ ปฏิบัติงานโดยยึดอุดมคติตำรวจเป็นที่ตั้ง เน้นรักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันตัวเอง อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ให้มีความพร้อมเสมอ ”

RELATED ARTICLES