เอกลักษณ์ความเป็นตัวเอง รู้จักรักตัวเอง

 

ริงๆงานที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้ตรงกับสายวิชาที่เรียนมาโดยตรง อาจจะเพราะค้นพบความชอบช้าไป เรียนตามใจที่บ้านก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หลังจากจบมาก็ได้มีโอกาสเริ่มทำงานที่ตรงตามสายวิชาที่เรียนมา ในตอนนั้นตอบตัวเองได้ชัดเจนเลยว่านี่มันไม่ใช่ตัวเรา ทำได้นะแต่เราไม่ได้ชอบแบบนี้ เลยมานั่งถามตัวเองแบบจริงๆจังๆหลังจากเรียนจบมาและได้เริ่มทำงานในบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ว่าถ้าเราไม่ชอบตรงนี้แล้วสิ่งที่เราอยากทำจริงๆล่ะคืออะไร”

สุดท้ายเธอค้นพบว่าอยากทำงานในสายงานโทรทัศน์ แต่ตอนนั้นก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเข้ามาในจุดนี้ได้ยังไง ถ้าให้ต้องไปเรียนใหม่อีก 5 ปีก็นานเลย แต่ด้วยจังหวะชีวิตและอะไรหลายๆอย่างก็ช่วยพาเรามาอยู่ในจุดๆนี้ทั้ง ๆที่ดูแล้วแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย  อันนี้ต้องขอบคุณโอกาสดีๆและโชคชะตาจริงๆ รู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหัวหน้าที่ให้โอกาส พี่ๆเพื่อนๆร่วมงานที่สอนงานให้ ขอบคุณความสุขในการทำงาน ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ดี บรรยากาศการทำงานที่อบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวมากกว่าเพื่อนร่วมงานในตอนนั้น เราเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างเชื่อในเรื่องโชคชะตาและความตั้งใจว่ามันจะพาเราไปอยู่ในที่ๆเหมาะสมกับตัวเรา  และเป็นคนที่่รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ทุกวันนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างตอบโจทย์ตัวตนของเราแล้ว นี่คือบทชีวิตของ บี-ณฐพร อินทอง  Co-producer สาวคนเก่งของรายการข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 HD

กว่าจะมาโลดแล่นในสายงานโทรทัศน์ บีจบมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา และคว้าปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มีคติประจำใจว่า “ทำทุกอย่างให้เต็มที่ ใช้ชีวิตให้มีความสุข สนุกกับทุกๆเรื่อง เพราะมองว่าทุกคนไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด  ถ้ามีความพยายามและตั้งใจเต็มที่กับทุกอย่างที่ทำ จะเป็นผลงานทุกชิ้นที่ภูมิใจ ผิดพลาดก็แก้ไข ทุกอย่างสามารถเรียนรู้และปรับปรุงได้ตลอดเวลา ขอแค่ยังมีไฟและยังสนุกกับมันก็จะทำทุกอย่างออกมาดี

บีบอกว่า ไอดอลคือแม่ ตั้งแต่วัยเด็ก ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีวิถีชีวิตเป็นชาวเกษตรกร แน่นอนว่าไม่ใช่ชีวิตที่สุขสบายเท่าไหร่ ที่บ้านทำสวนผลไม้หลายอย่าง แต่ละอย่างก็มีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันไป  ช่วยพ่อกับแม่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเบื่อมาก เหนื่อย ร้อน ไม่ชอบเลย อยากไปให้พ้นๆจากตรงนี้ แอบโกรธว่าทำไมต้องมาตากแดดทำงานร้อนๆแบบนี้ แต่พอโตขึ้นเรื่องพวกนี้กลายเป็นบทเรียนในชีวิตจริงๆ และเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตัวเราเอง คิดและพยายามจะตั้งใจเรียนเพราะไม่อยากลำบาก ความรู้สึกคิดลบในวัยเด็กกลับกลายเป็นความรู้สึกขอบคุณอย่างอธิบายไม่ถูก

จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผ่านมาเกือบ 30 ปี เธอจดจำแบบอย่างมาจากผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน แม่เป็นผู้หญิงที่ขยันและสู้ชีวิตมาก ๆ  แม้ชีวิตจะสู้แม่กลับแบบหนักหน่วงก็ตาม เคยเห็นแม่ท้อบ้างแต่แม่ไม่เคยหยุดที่จะทำงานเลยขยันสุดๆ นี่แหละไอดอลและต้นแบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เราไม่กลัวความลำบาก ไม่กลัวเรื่องยากๆ มองทุกอย่างตามความเป็นจริงของโลกใบนี้ว่า มันคือบททดสอบเพื่อให้เราเติบโต และตั้งใจที่จะเติบโตอย่างแข็งแรงให้ได้เหมือนแม่ ตอนนี้รู้แล้วว่าการทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจถึงมันจะเหนื่อยแต่ถ้าทำด้วยความสุขทุกอย่างจะคุ้มค่าเสมอ

“ด้วยความเป็นคนที่ค้นหาความชอบ และได้ลองทำงานในหลายๆรูปแบบทั้งงานทัวร์ งานเอกสาร งานโปรดักชันเฮาส์ แต่ละงานแตกต่างกัน แต่ทุกงานได้ให้ประสบการณ์ในคนละแบบ รายละเอียดแตกต่าง ทำให้เราได้มีพื้นฐานในการทำงานและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ประมาณหนึ่ง สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานในปัจจุบันได้”

มุมมอง“ผู้หญิงสวยและเก่ง” บีมองว่า ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง ทุกคนมีเอกลักษณ์ มีความคิดและความเป็นตัวเองในแต่ละบุคคลอยู่แล้ว แค่เรารู้จักตัวเราเอง รักและเข้าใจตัวตนของเรา มีทัศนคติที่ดี มีความคิดที่ดี มองโลกในแง่ดี มองทุกอย่างอย่างเข้าใจ ใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกๆวัน ผู้หญิงทุกคนก็สามารถดูสวยได้ในแบบของตัวเอง

ส่วนผู้หญิงเก่ง คือ ผู้หญิงที่มีสติ สามารถจัดการกับความคิดควบคุมอารมณ์ความรู้สึกและจัดการปัญหาได้เป็นอย่างดี รู้ว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร สบายใจแบบไหน กล้าที่จะพาตัวเองออกมาจากจุดที่ไม่เหมาะกับตัวเรา เป็นผู้หญิงในแบบที่รักตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่ารักแบบเห็นแก่ตัว  ต้องรู้ว่าเราเหมาะกับอะไร ดูแลตัวเองให้ได้  ถ้าเรารักและรับผิดชอบตัวเองได้นั่นแหละที่เรามองว่าเป็นผู้หญิงที่เก่ง

“เป้าหมายในชีวิตต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองให้ได้ ไม่เป็นภาระของใคร และที่สำคัญพ่อแม่ไว้วางใจเรา สายตาของเขาที่มองเราด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ แค่นี้ใจเราก็ฟูแล้ว นี่คือความสุขใจที่่รู้สึกว่ามันประสบความสำเร็จแล้ว ในบทบาทของคนเป็นลูก แต่อาจจะมีปัจจัยอื่นที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนไปตามช่วงอายุ ทุกคนสามารถมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆและเป้าหมายใหม่ๆที่ดีกว่าเดิมได้ตลอดเวลา ขอแค่อย่าหมดไฟ สร้างความสำเร็จใหม่ๆในชีวิตได้เรื่อยๆ”

ท้ายนี้ สาวคนเก่งอัธยาศัยดี ยังบอกอีกว่า  ผู้หญิงทุกยุคสมัยมีขอบเขตและการแสดงศักยภาพที่แตกต่างกัน รู้สึกโชคดีที่ปัจจุบันผู้ชายกับผู้หญิงสามารถแสดงศักยภาพและความสามารถได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตทางความคิดหรือการแสดงทัศนคติต่าง ๆ สังคมในยุคปัจจุบันค่อนข้างเปิดกว้างกว่าในสมัยก่อน ผู้หญิงกล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด เป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ

 

RELATED ARTICLES