ผู้ช่วย ผบ.ตร.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี

 

ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (เชียงใหม่) และข้าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่ส่งกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตามนโยบายการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันเหตุดูแลความปลอดภัยประชาชน และนักท่องเที่ยวแบบบูรณาการ ของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ใช้มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมการกระทำความผิด ไกด์ชาวต่างชาติผิดกฎหมาย รวมทั้งความผิดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สื่บเนื่องจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมผู้บังคับบัญชาในงานป้องกันปราบปรามของหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศ กำชับการดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และวางแผนการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไท ด้วยกา ร “วีซ่า-ฟรี” (ยกเว้นวีซ่า) หรือเดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวจีนกับคาซัคสถาน จะเริ่มในช่วงปลายเดือนกันยายนจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 รวมทั้งได้มีการรายงาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการเตรียมความพร้อมรับท่องเที่ยวที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย

“จากการประเมินข้อมูล สถานการณ์นักท่องเที่ยว ภายหลังจากที่มีมติในเรื่องฟรีวีซ่า ประกอบกับเป็นช่วง High Season หรือฤดูท่องเที่ยวของไทย จากกรมการท่องเที่ยวคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น  สถิติในปี 2566 ขณะนี้ตั้งแต่ต้นปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยแล้วจำนวน 18.6ล้านคน คาดว่าในช่วงต่อจากนี้เป็นช่วง High Season จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 9.2ล้านคน และด้วยนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนคน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวที่มีจำนวนกำลังพลของหน่วยอยู่ประมาณ 1,800 นาย ไม่เพียงพอในการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่ตามแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จำเป็นต้องมีการสนับสนุนการปฏิบัติจากหน่วยปฏิบัติพื้นที่ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการทำงานยกระดับการป้องกันเหตุ ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว บูรณาการทั้งนครบาล ตำรวจภูธรโดยเฉพาะจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ตำรวจสอบสวนกลาง วางแผนการทำงานร่วมกันให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพสอดคล้องกันไม่ซ้ำซ้อน” พล.ต.ท.สำราญกล่าว

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวต่อว่า ตำรวจท่องท่องจะเป็นหลักในการรับแจ้งเหตุผ่านสายด่วน1155 มีเจ้าหน้าที่ล่าม 5 ภาษา และมีแอพพลิเคชั่น Tourist police i lert uให้นักท่องเที่ยวได้ติดตั้งสำหรับคอยช่วยเหลือ นอกจากยกระดับในการป้องกันเหตุ ในส่วนการรับแจ้งเหตุทั้งเรื่องขอความช่วยเหลือ หรือบริการต่างๆ จะพัฒนาด้วยเช่นกัน ให้ระบบของ 191และ1155 (ตำรวจท่องเที่ยว) สามารถเชื่อมต่อประสานการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วเสริมศักยภาพบริหารจัดการเหตุได้ดีขึ้น สั่งการไปยังทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศให้เตรียมความพร้อมการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเข้ามามากขึ้น ต้องบริหารจัดการแผนการตรวจของสายตรวจ บูรณาการกำลัง ร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยเกี่ยวข้องในพื้นที่ อีกทั้งกำชับให้เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังเป็นพิเศษแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยว ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจที่อยู่ในวงจรการท่องเที่ยวช่วยกันดูแลเป็นเจ้าของบ้านที่ดี คือ สะดวก มาตรฐานปลอดภัย และประทับใจ ทำอย่างไรให้เมื่อเขามาเที่ยวบ้านเราแล้ว อยากจะกลับมาอีก

RELATED ARTICLES