เมื่อวันที่ 17 พ.ย.66 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม, สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผู้กำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม, พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สารวัตร กองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม, นำกำลังจับกุม นายบะห์รี มะเซ็ง อายุ 25 ปี ชาว จังหวัดปัตตานี ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี จ.700/2566 ลงวันที่ 13 พ.ย. 2566 ข้อหา ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง, เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยมิชอบ ได้ที่บริเวณริมถนนกาญจนวนิช คลองแงะ – สะเดา มู่ที่8 ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
เนื่องจากเมื่อปี 2565 น.ส.แน็ท (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ได้คบหาเป็นแฟนกับ นายบะห์รี ผู้ต้องหารายนี้ โดยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี ก่อนจะเลิกลากันไป เนื่องจากช่วงที่อยู่ด้วยกันมักถูก นายบะห์รีใช้กำลังทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้งเพราะความหึงหวงเวลามีชายหนุ่มเข้ามาพูดคุยหรือติดพัน ภายหลังเลิกรากันไป นายบะห์รี ยังคงพยายามตามง้อขอคืนดี ต่อมาขณะที่ น.ส.แน็ท กำลังเดินทางกลับบ้านพัก นายบะห์รีห์ ขับรถมาจอดดักรอพร้อมพยายามบังคับให้ขึ้นรถไปด้วยกัน แต่ก็ น.ส.แน็ท ปฏิเสธ เพราะรู้ดีว่า หากยอมไปด้วย นายบะรีห์ จะพาไปบังคับให้ร่วมหลับนอน ทำให้ นายบะรีห์ เกิดความโมโหคว้าเอาโทรศัพท์มือถือของ น.ส.แน็ท แล้วขับรถหลบหนีไป หลังจากได้โทรศัพท์ของผู้เสียหายไปไม่นาน นายบะรีห์ ก็ได้ นำคลิปวิดีโอหรือภาพโป๊เปลือยของ น.ส.แน็ท ที่เคยแอบถ่ายไว้สมัยที่ยังคบหากันโพสต์ประจานตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อกลั้นแกล้งให้อับอาย รวมถึงพยายามตามรังควานก่อกวนคนในครอบครัว ทำให้ น.ส.แน็ท เกิดความเครียดเป็นอย่างมากจนเกือบฆ่าตัวตาย แต่เคราะห์ดีมีญาติมาพบเห็นให้การช่วยเหลือไว้ได้ จึงเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายบะรีห์ เพราะทนแบกรับพฤติกรรมข่มขู่คุกคามเช่นนี้ไม่ไหวจนมีการออกหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ปัจจุบัน นายบะห์รี ได้หนีมาทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จังหวัดสงขลา จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายบะห์รี ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ จากกรณีขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก 1 คดี ก่อนนำตัวส่ง สถานีตำรวจภูธรตุยง จังหวัดปัตตานี ดำเนินคดีต่อไป
