ผู้หญิงทุกคนสวยหมด อยู่ที่จะให้คุณค่าแบบไหน

 

ติประจำใจไม่มีอะไรที่ตายตัว แต่ถ้าจะถามว่าใช้หลักการไหนในการใช้ชีวิต และการทำงานก็คงหนีไม่พ้นกับคำที่ว่า“ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน” เพราะอดีตคือบทเรียน เสียดายและเสียใจได้แต่อย่าให้มันมาทำให้ชีวิตปัจจุบันของเราหมดสนุก ถึงอย่างไรเราก็ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนอนาคตเราก็ไม่สามารถข้ามไปเห็นว่ามันจะเกิดอะไรบ้างในวันข้างหน้า แต่ผลของอนาคตก็คือการกระทำในวันปัจจุบันอยู่ดี แค่เรามีความสุขและสนุกกับชีวิตทุกอย่างก็คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในเรื่องการทำงานก็เหมือนกัน แม้ว่างานที่เราทำอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เรารักที่สุดแต่เราก็สามารถทำงานอย่างมีความสุขและสนุกไปกับมัน คิดว่ามีงานให้ทำก็ดีแค่ไหนแล้ว ความรับผิดชอบในงานแค่นี้มันคงไม่ยากเกินความสามารถของแต่ละคนไปได้หรอก ถ้ามันผิดก็แค่แก้ไขและไม่ทำซ้ำเดิม เหนื่อยก็พักแล้วค่อยลุกขึ้นสนุกกับมันอีกครั้ง”นี่คือหลักคิดแนวทางดำเนินชีวิตที่เป็นคติประจำใจของสาวสมัยใหม่หนิงเทวี พึ่งชื่น ปัจจุบันทำงานในหน้าที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ทีวีค่ายหมอชิตช่อง7HD

หนิงจบจากมัธยมโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี จากนั้นก็เข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาการจัดการ จบมาก็เริ่มงานได้ประมาณ3-4ปี มีความคิดที่อยากจะเรียนต่อในระดับปริญญาโทเลยตัดสินใจขอพ่อแม่เรียนต่อในคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัย รามคำแหง ในขณะที่เรียนจบหลังจากเรียนจบปริญญาตรีหมาดๆก็เริ่มเข้าทำงานเป็นพนักงานติดต่อสอบถามในบริษัททีวีแห่งหนึ่งทำงานในส่วนนั้นได้ประมาณ2ปีครึ่ง ก็ได้มีการขยับขยายสายงานขอสมัครภายในเพื่อเลื่อนตำแหน่งมาอยู่ในส่วนงานคอนเทนต์ครีเอเตอร์ฝ่ายผลิตรายการ

เธอบอกอีกว่า งานของเธอเกี่ยวกับรายการต่างประเทศและงานพากย์  และยังต้องคิดคอนเทนต์โปรโมทภาพยนตร์ งานลักษณะนี้บางทีก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนเอาอะไรมาผสมกับอะไร แถมก็ไม่เก่งด้านภาษาอีก รู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองปรับตัวเยอะมาก ไม่รู้อะไรก็ต้องถามต้องสังเกตเรียนรู้กันพักใหญ่ การประสานงานกับคนหลายๆฝ่าย บางคนรักและเอ็นดูเรา บางคนเห็นว่าเป็นเด็กไปสั่งงานผู้ใหญ่  แต่ก็สามารถผ่านจุดตึงเครียดทำให้แข็งแกร่งได้ ด้วยการทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว ทำให้มีความรู้และคุณค่าในแบบของเรา

หากถามถึงไอดอลหนิงตอบแบบไม่ต้องลังเลว่า“แม่”เพราะตั้งแต่จำความได้ ก็ไม่เคยเห็นแม่อยู่เฉยเลย นอกจากเวลานอนหลับแม่เป็นคนที่อยู่นิ่งไม่ได้ ซึ่งที่บ้านทำอาชีพร้านโชห่วยก็ถือว่า พอมีพอกินอยู่บ้างแต่จริงๆแล้วแม่ชอบทำสวนมาก เพราะแม่มาจากครอบครัวเกษตรกร มีสวนมะพร้าวสวนกล้วยเยอะมาก หนิงเรียนจบปริญญาโทก็เพราะสวนกล้วยของแม่นี่แหละค่ะ แต่พ่อก็มีส่วนช่วยเหลือเยอะมากๆเหมือนกัน เลยรู้สึกว่าแม่เป็นไอดอลของเรา เขาเป็นคนขยันกระตือรือร้นไม่หยุดนิ่งเพื่อที่จะทำให้ลูกๆอยู่กันอย่างสบายไม่ลำบากในภายภาคหน้า และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เกี่ยวโยงว่า ทำไมหนิงยังคิดว่าหนิงยังไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่พอ

ชีวิตต้องมีบทสอบ ซึ่งเธอบอกว่า ในชีวิตที่ผ่านมานี้ยังไม่รู้สึกท้อหรือเจออุปสรรคที่ใหญ่โตมาก่อนหรืออาจจะเป็นเพราะเรามองปัญหาคือแบบฝึกหัดเหมือนเราฝึกทำแบบทดสอบ มีผิดมีถูก อันไหนผิดเราก็แก้ไขใหม่อันไหนถูกเราก็นำไปปรับใช้ในครั้งหน้า อย่างเวลาทำงานภายใต้ความกดดันบางครั้งก็ท้อ เพราะเราทำงานเกี่ยวกับสื่อโทรทัศน์ต้องคอยคิดอะไรที่แปลกใหม่อยู่ตลอด ไหนจะคนที่เราประสานงานด้วยหรือแม้แต่งานที่เราได้รับมอบหมายทุกอย่างอยู่ภายใต้ความกดดัน แต่งานก็สอนให้เราอดทนตั้งใจและมุ่งมั่นทำงานให้ลุล่วงด้วยดี และแถมยังเห็นถึงความมีน้ำใจของเพื่อนร่วมงานอีกด้วย  เวลาที่ท้อจะต้องถอยออกมาปรับอารมณ์ของตัวเอง ก่อนหาอะไรอย่างอื่นทำให้เราไม่ฟุ้งซ่านไปกับความเครียดเหล่านั้น เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือปลูกต้นไม้ พอถึงจุดที่อารมณ์เราคงที่ก็จะพร้อมเผชิญกับปัญหาหากมีเวลาก็อาจจะไปเที่ยวบ้างเพื่อเติมพลังให้กับตัวเองแล้วค่อยลุยต่อกับชีวิต

ส่วนเรื่องมุมมองผู้หญิงสวยและเก่ง เรื่องนี้หนิงให้ทัศนะว่าผู้หญิงสวยคือคนที่รูปร่างหน้าตาสวยในแบบของตัวเองสวยในแบบที่ตัวเองเป็นแบบที่ไม่ต้องพยายามเหมือนคนอื่นสวยจากกิริยาท่าทางรู้จักกาลเทศะผู้คนรอบข้างอยู่ด้วยแล้วมีความสุขและยังช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแค่นี้ทุกคนก็คือคนสวยหมด แต่อยู่ที่ตัวคุณเองว่าให้คุณค่าตัวเองแบบไหนก็เท่านั้น ส่วนผู้หญิงเก่งคือผู้หญิงที่มีความสามารถและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขคนที่ทุ่มเทให้ตัวเองเรียนรู้ที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ในที่นี้ต้องไม่เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

“หากถามถึงความสำเร็จในชีวิตตอนนี้หนิงยังคิดว่าตัวเองยังประสบความสำเร็จในชีวิตไม่พอ เพราะในชีวิตของแต่ละคนมีเป้าหมาย หรือ ความสำเร็จไม่เหมือนกัน ชีวิตคนเรายังต้องก้าวต่อไป ไม่ใช่ว่าเรียนจบปริญญาโทแล้ว ชีวิตเราจะหยุดเดินแค่นั้น ชีวิตเราก็ยังก้าวต่อไปเรื่อยๆอีก บางคนแค่มีรถบ้านการศึกษาสูงๆ มีเงิน มีอาชีพที่มั่นคงก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว สำหรับหนิงเรียนจบปริญญาโท มีงานที่ดีทำ มีครอบครัวที่ดี มีเงินพอมีพอใช้ มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่พ่อแม่ยังต้องทำงานนั้นก็ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเป้าหมายคือเราสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้อย่างดีมี ความสุข” หนิงระบุ

หนิงยังบอกอีกว่า ความแตกต่างผู้หญิงยุคปัจจุบัน กับยุคก่อนนั้น มีทั้งเหมือนและแตกต่างกัน ผู้หญิงสมัยก่อนจะยังไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองมากเท่าไหร่จะอยู่ในขอบเขตที่ถูกสอนกันมารุ่นต่อรุ่น แต่พอมาในยุคปัจจุบันทุกคนแสดงสิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ทำให้ผู้หญิงในยุคนี้กล้าที่จะแสดงออกและมั่นใจในคุณค่าของตนเองมากขึ้น ไม่ได้บอกว่าผู้หญิงยุคไหนผิดหรือถูก เมื่อค่านิยมและโลกของเราได้เปลี่ยนแปลงไปไม่แปลกที่ผู้คนจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย อย่างที่เห็นผู้หญิงในยุคนี้จะแต่งงานกันช้าขึ้นและแข็งแกร่งกันมากขึ้น ถ้าชีวิตเรามีความสุขดีอยู่แล้วแค่นั้นก็พอแล้วหรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงสมัยก่อนและผู้หญิงในปัจจุบันเหมือนกันไม่เคยเปลี่ยนนั่นก็คือ ทุกคนล้วนเป็นคนสวยและเป็นคนเก่งเหมือนกัน

RELATED ARTICLES