พยายามเล่นเกมเหนือเพื่อยื้อกระดานหมากร้อน
“ลุงพล” ไชย์พล วิภา อายุ 44 ปี ล่องหนจากบ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ก่อน “ปฏิบัติการฟ้าสาง” ของ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ที่ขนกำลังบุกไปพยายามเข้าควบคุมตัว
ตามหมายจับ ศาลจังหวัดมุกดาหารที่ จ.53/2564 ลง วันที่ 1 มิถุนายน 2564
ข้อหา “พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันควร , ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลง”
หัวหน้าทีมนักสืบ “ศิษย์เอก” ของ “อาจารย์ปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จั่วลมตอนอรุณรุ่ง หลังจากมุ่งปิดเกมปริศนาการตายของ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่เพียรพยายามแกะรอยหาพยานหลักฐานนานกว่า 1 ปี นำไปสู่จุดไคล์แมกซ์ของตัวละครสำคัญอย่าง “ไชย์พล วิภา” ลุงเขยของเหยื่อ
พระเอกตามท้องเรื่องรู้แกว “ปฏิบัติการฟ้าสาง” ชิงหลบหนีอย่างนั้นหรือ
กระทั่งสาย “ลุงพล” ปรากฏตัวพร้อม “ป้าแต๋น” เมียรักใจกลางเมืองหลวง มี “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด คอยคุมจังหวะเกมไปโผล่ยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เล่นบท “ยืดอก”แสดงความบริสุทธิ์ใจขอมอบตัวต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพสีกากี ที่กำลังนั่งเป็นประธานแถลงข่าวผลยุทธการ “ข้ามฟ้าล่า App เงินกู้” บุกทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบของศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามคาดหวังของ “ลุงพล”
ผู้นำสูงสุดกองทัพตำรวจ “เล่นไม้แข็ง” ส่งสัญญาณ “ไม่ให้ราคา” การเข้ามอบตัว และปฏิเสธการเข้าพบ
ผู้ต้องหาตามหมายจับพัวพันการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เริ่มลังเลอยู่บริเวณห้องโถงชั้นล่างอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการสันติบาล 2 รับผิดชอบพื้นที่บริเวณนั้นได้รับคำสั่งด่วนให้ควบคุม “ลุงพล” ในทันทีที่พบตัว
“ไชย์พล วิภา” กลายเป็นดาราหน้ากล้องอีกรอบ เมื่อนายตำรวจหนุ่มเข้าล็อกตัวจะใส่กุญแจมือ เจ้าตัวมีอาการขัดขืนฮึดฮัดเล็กน้อย ก่อนยอมจำนนแต่โดยดี
เขาหลุดพ้นมือ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ลูกศิษย์มือดีของ “อาจารย์ปั๊ด” แต่ไม่รอดมือ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ลูกศิษย์อีกคนที่อยู่ในคณะทำงานสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการตายของ “น้องชมพู่” เช่นกัน
พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ จัดแจงแสดงหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านให้ “ไชย์พล วิภา” ฟังอย่างละเอียด มี ร.ต.อ.ธัญพีรสิทฐ์ จุลพิภพ รองสารวัตรกลุ่มงานการข่าว กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ส.ต.ท.ณัฐกิต เชื้อสุข ผู้บังคับหมู่ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ส.ต.ต.จิรวัฒน์ ศรีมั่นชัย ผู้บังคับหมู่ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 คอยคุมเชิง
หลังจากนั้นควบคุมตัวขึ้นรถไปส่ง พ.ต.อ.พันษา อรมาพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจปทุมวัน เพื่อลงบันทึกจับกุม แล้วพานั่งเฮลิคอปเตอร์บินกลับไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร
สอบปากคำเบื้องต้น
ลุงเขยเด็กน้อยเหยื่ออำพรางศพให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สุดท้ายคุมตัวส่งคืนสถานีตำรวจภูธรกกกอก อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ท้องที่เกิดเหตุ
พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว แม้ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด จะยื่นทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว
สิ้นสุดอิสรภาพของ “ลุงพล”อย่างเป็นทางการหลังเล่น “เกมโยกเยก” กับตำรวจมาตลอดวัน
คืนแรกในห้องขังอยากรู้เหมือนกันเขาจะนั่งคิดอะไรอยู่