ออกอาวุธเก็บแต้มเหนือแคนดิเดตคนอื่นที่มัวเก็บตัว “ไร้ผลงาน”
ต้องยอมรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แม้จะรับผิดชอบงานความมั่นคง แต่ยังคงก้มหน้าก้มตาเปลี่ยนวิกฤติที่ถูก “ดิสเครดิต” โยงพันคดีสำคัญ เดินหน้าฉายแสงเจิดจรัสตามสไตล์ของตัวเอง
พิสูจน์ความเป็นขวัญใจประชาชนและสื่อมวลชนที่มักติดตามอยู่ข้างกาย
นายพลคนดัง “เล่นไฟเป็น” ถึงทำคะแนน “โดดเด่น” เมื่อเทียบกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตำแหน่งเดียวกัน
จังหวะจะโคนไม่เคยเป็นอ่อนด้อยแม้แต่น้อย
วัดกันปอนด์ต่อปอนด์ถ้าไม่มีเกม “ชกใต้เข็มขัด” เขาน่าจะเป็น “ตัวเต็ง” เจ้าสำนักสีกากีคนต่อไปที่น่ากลัว
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เดินทางไปยังสถาบันส่งเสริมงานสอบสวน ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ตามคำเชิญให้ไปบรรยายประสบการณ์แก่ ว่าที่ ร.ต.ต.ใหม่ที่เพิ่ง “ติดดาวเงิน” ประดับบ่าจบออกมาจากรั้วสามพรานเข้าอบรมประกาศนียบัตรวิชาชีพสอบสวนจำนวน 111 นาย
พี่นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 ขึ้นเวทีสอนน้องนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 77
รับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางบรรยากาเป็นกันเอง
หลังจากนั่งพูดคุยกันในหัวข้อ “การทำงานเพื่อความสำเร็จและอยู่ในหัวใจของประชาชน”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์บอกว่า ชีวิตการทำงานและชีวิตจริงไม่ต้องรีบร้อน แต่ต้องเก่งงาน สั่งสมประสบการณ์งานสอบสวนให้มาก เพราะคือ พื้นฐานของงานตำรวจทั้งหมด
“พวกเราจะต้องเป็นผู้บังคับบัญชาในอนาคต ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาที่เก่งงาน รู้งาน สั่งงานเป็น ไม่ต้องรีบสร้างหนี้สิน ไม่ต้องรีบออกรถใหม่มาเป็นภาระ มุ่งมั่นทำงานอย่างอดทน ทำงานหนักวันนี้ แล้ววันหน้าจะสบายเอง หากต้องเข้าเวรสอบสวน อย่าเอางานเก่ามาทำ เปิดร้านรับงานใหม่ มีสมาธิกับเหตุที่เกิดขึ้นตรงหน้า” รุ่นพี่ที่ห่างกันถึง 30 ปีอธิบายความ
ย้ำว่า การเจริญเติบโต ทุกคนต้องวางแผนชีวิต ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น อยู่กับตัวเราเอง ต้องมีวิธีคิดเป็นของตัวเอง ต้องดูแลตัวเอง แต่งเนื้อแต่งตัวให้ดี สายแดงเวลาเข้าเวรต้องไม่ดำ ไม่ต้องตู้ ไม่ต้องตรงเป๊ะ แต่ต้องมีคุณธรรม
เจ้าตัวขยายความว่า การเป็นตำรวจ ต้องเป็นตำรวจพื้นที่ เป็นผู้กำกับโรงพัก เพราะจบจากโรงเรียนนายนร้อยตำรวจ คือ กำลังหลัก “ให้ดูตัวอย่างชีวิตพี่ เป็น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีปริมาณงานมาก อยากได้งาน อยากเรียนรู้งาน ทำให้พี่แข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้ พอทำงานเป็น สอบสวนเป็น สืบสวนเป็น ก็จะมีแต่คนใช้งาน มีแต่คนไว้วางใจ ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ทำงานสำคัญ ๆ”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฝากให้ทุกคนตั้งใจเรียนทั้งภาคทฤษฎี ทั้งภาคปฏิบัติ ไปฝึกงานโรงพัก ต้องสนใจเรื่องงาน นึกถึงวันข้างหน้าที่ต้องทำงานจริง ที่ไม่มีพี่เลี้ยงคอยชี้แนะอีกต่อไป กฎหมายใหม่ ๆ ต้องศึกษา เช่น พระราชบัญญัติเปรียบเทียบปรับเป็นพินัย หรือ พระราชบัญญัติอุ้มหายที่ไม่ใช่แค่ถูกออกจากราชการ แต่มีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี
ติดคุก ติดตะรางได้ด้วย