ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ปฏิบัติราชการ รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ต.เศกสรรค์ สุทธิโกมินทร์ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ต.ประสงค์ คงเพชร์ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล จับกุน.ส.ภัทราภรณ์ นันท์บุญมา อายุ 23 ปี ที่อยู่ 51/1 หมู่ 1 ตำบลโนนทอง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 313/2567 ลงวันที่ 22 มกราคม 2567 กระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นซึ่งได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ได้ด้านหน้าคอนโด ซอยรามคําแหง43/1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ คือ ผู้ต้องหาจะท่องราตรียามค่ำคืนโดยตระเวนหาเหยื่อตามสถานบันเทิงในย่านกรุงเทพมหานคร เมื่อได้พบเจอกับผู้เสียหายที่ร้านอาหารจะมีการแลกเปลี่ยนไอดีไลน์แล้วนัดพบเจอผู้เสียหายที่ห้องทำทีว่าจะขอเข้าพักค้างคืน เมื่อสบโอกาสในระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำและเผลอจึงได้นำเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปเป็น สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 6 สลึง และพระจำนวน 1 องค์ แหวนทอง จำนวน 1 วง น้ำหนักประมาณ 2 สลึง บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ และใช้บัตรกดเงินออกมาได้อีกจำนวน 3,700 บาท (สามพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) จากการสอบปากคำพบว่ามีการกระทำในลักษณะนี้อีกจำนวนหลายครั้ง ได้เงินและของมีค่าประมาณ ครั้งละ 20,000-40,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แต่มักจะเกิดความอับอาย ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด เพราะเกรงจะเป็นข่าวและมีผลกระทบต่อครอบครัว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากเตือนนักเที่ยวกลางคืน ชายขี้เหงา ให้ระมัดระวังสาวหน้าตาดีเข้ามาตีสนิทพูดคุยให้เหยื่อที่เป็นเป้าหมายได้ตายใจและจะไม่มีการลงมือในทันที แต่จะแลกเบอร์โทร ไลน์ พูดคุยและนัดเจอกันในภายหลัง เมื่อมีการนัดเจอและพูดคุยกันแล้วขอไปนอนด้วยอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ฉกเอาทรัพย์สินหายไป หรือบางรายอาจจะโดนมอมยา รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรุ่งเช้า พบว่าทรัพย์สินหายไปแล้ว ขอเตือนสตินักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแสงสียามราตรีคงต้องระมัดระวังภัยจากเหล่ามิจฉาชีพที่มุ่งหวังในทรัพย์สิน แต่ละรายจะใช้วิธีการไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องระมัดระวังไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า หรือเชื่อคนง่ายเกินไป
