เปิดประเด็นว่อนโลกโซเชียล
นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ลงนามเอกสารลับ อส.0033/8 ส่งถึง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน
สรุปความว่า ด้วยในการสอบสวนคดีอาญาของกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ของ “มินนี่” ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ขอให้เข้าเป็นที่ปรึกษาสอบสวนคดี
อัยการสูงสุดมอบหมายให้ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และ นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 คนใดคนหนึ่งเข้าให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน
เริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้แจ้งเชิญให้เคำแนะนำปรึกษา ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566
ขณะนี้ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนอยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการที่เข้าให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน
ปรากฏผู้ต้องหากับพวกรวม 8 คนเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนของพนักงานอัยการ แต่พบว่า ผู้ต้องหาผู้ร้องเรียนได้แนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฏภาพของ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ และ นายสุริยน ประภาสะวัต มีลักษณะเป็นภาพถ่ายที่มีผู้เฝ้าติดตามในขณะเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่
เจ้าตัวให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตรวจสอบและหาตัวบุคคลแอบถ่ายแล้ว และในเบื้องต้นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตรวจพบแล้วว่า มีผู้แอบถ่ายภาพ ประกอบกับข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนไม่จำเป็นต้องใช้ภาพถ่ายในลักษณะดังกล่าวเป็นหลักฐาน
การที่ผู้ต้องหาผู้ร้องเรียนทั้ง 8 ใช้ภาพถ่ายดังกล่าว เป็นพฤติการณ์ให้เห็นว่า ต้องการให้พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่ได้พบเห็นและรู้ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาเฝ้าติดตามการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันโดยตลอด
เป็นการกระทำโดยมิชอบในเชิงการคุกคามข่มขู่ให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดภยันตรายต่อชีวิตร่างกายของพนักงานอัยการผู้ปฏิบัติหน้าที่และบุคคลภายในครอบครัว
.
ทั้งได้กระทำต่อพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยที่ผู้ต้องหาดังกล่าวเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หลายระดับต่างกันมีอำนาจหน้าที่ในการรักษากฎหมาย รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และทราบว่า ยังคงรับราชการอยู่
กลับมีพฤติการณ์กระทำโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายอันอาจเข้าข่ายขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวนเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยไม่สุจริต มีอำนาจหน้าที่และมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่สามารถสั่งการได้
คดีนี้เป็นคดีสำคัญ มีการกระทำความผิดเป็นกระบวนการ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายในหลายระดับถูกสอบสวนดำเนินคดี ย่อมทำให้พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่เกิดความกลัวว่าจะเกิดภยันตรายต่อชีวิตร่างกายของตนเองและบุคคลในครอบครัวเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่
หากมีการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไป ยังไม่ปรากฏว่า สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการที่จะปกป้องคุ้มครองพนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไร เป็นหลักประกันให้พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่
เป็นเหตุผลให้ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 กราบเรียนอัยการสูงสุดพิจารณาอนุญาต
ให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ไว้ชั่วคราว
จนกว่าสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการในมาตรการปกป้องคุ้มครองเป็นหลักประกันพนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่รวมทั้งบุคคลในครอบครัวให้มีความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินในการปฏิบัติหน้าที่
หากอัยการสูงสุดอนุญาตให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ จะได้แจ้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนต่อไป
เรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณาดำเนินการตรวจสอบพฤติการณ์การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาและตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้อง และรายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปโดยเร่งด่วนด้วย
ท้ายที่สุด พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวน “คดีดังข้ามปี” ยังสงวนท่าทีไม่ยอมออกอาวุธเด็ด
เงื้อง่าราคาแพงแสดงบทเหมือนยังไม่อยากแตะ “เผือกร้อน”
ปล่อยลูกน้องกระวนกระวายถูกหมายหัว