มุมมืด

 

วิบากกรรมของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังต้องจับตาเส้นทางชีวิตรับราชการในอนาคตจะรอดพ้น “คมหอก-คมดาบ” จาก “เหรียญอีกด้าน” ได้หรือไม่

เมื่อเจ้าตัวเลือกเดินหมากไม่ยอมเข้า “มุมอับ” อาบ “แสงสว่าง” สาดส่องจ้องหน้าบนเวที แต่อีกฟากฝั่งกลายเป็น “มุมมืด” เจอเกมรุกไล่เกือบสุดกระดาน

ตำนานฉายา “แมวเก้าชีวิต” ลิขิตถึงไปบทไหนแล้วไม่มีใครรู้

ล่าสุด  พล.ต.อ.วินัย ทองสอง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนนตรีมอบหมายให้สอบสวนความขัดแย้งภายในองค์กรตำรวจแถลงความคืบหน้าระบุมติในทีมลงความเห็น

ฟันผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ฟอกเงินบ่อนพนันออนไลน์

หลังเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสอบถามเกือบ 30 ราย เช่น พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรววจภูธรภาค 4  พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักหาล เข้าให้ข้อมูลและให้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง

เบื้องต้น ทั้งพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล

ระบุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง เป็นการฟอกเงินที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์มายังบัญชีม้าและเชื่อมโยงมายัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เชื่อว่า รู้และได้รับประโยชน์บางส่วนจากการกระทำดังกล่าว  

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ยืนยันว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการนั้นมีผลออกมาก่อนที่ศาลจะออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และหากข้อมูลฝั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วจะทยอยส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา

นายกสมาคมตำรวจที่รับบทกรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้ทรงคุณวุฒิให้เหตุผลด้วยถึงเหตุผลการตรวจสอบรวดเร็วเนื่องจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมาเป็นเวลานานกว่า 7 เดือน

“อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจากบุคคลที่เกี่ยวข้องเอง ไม่ได้นำข้อมูลจากพนักงานสอบสวนมาอ้างอิง” พล.ต.อ.วินัยว่า

ย้ำว่า คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจในการตรวจสอบทั้งข้าราชการและบุคคลทั่วไปที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชั้นศาลในอนาคต หากภายหลังเกิดกรณีศาลมีคำพิพากษาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ไม่ได้กระทำความผิดที่ขัดกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการจะถือเป็นปัญหาหรือไม่

“เป็นเรื่องของอนาคต   แม้ว่าศาลจะชี้ว่าไม่ผิด แต่ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่ผิด เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล จะฟ้องกลับคณะกรรมการก็ไม่กังวล และรู้สึกยินดี”

นายพลตำรวจนักสืบมือปราบเก่าทิ้งท้ายแสดงจุดยืนเพื่อฟื้นความศรัทธาให้กับองค์กรตำรวจด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมา

RELATED ARTICLES