ทำไมต้องปฏิรูปตำรวจ

 

ถกกันมาหลายยุคหลายสมัยกลับรักษาไม่ตรงจุด

“คนนอกรั้ว” ชอบทำตัวเป็น “หมอตำแย” แต่แก้ปัญหาไม่ถูกโรค โขกสับ “ปู้ยี่ปู้ยำ”กระทำชำเราองค์กรตำรวจแข่งประกวดความล้มเหลว

แท้งตายทั้งกลม

“ทำไมต้องปฏิรูปตำรวจ” เสียงสะท้อนเรียกร้องมาตั้งแต่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รับตำแหน่งนายกสมาคมตำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2564

ให้เหตุผลว่า ประชาชนต้องการให้ปฏิรูปเพราะตำรวจไม่ใส่ใจการปฏิบัติหน้าที่ ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่รับแจ้งความ บ้างก็รับแจ้งแต่ไม่สอบสวน ไม่ออกไปดูที่เกิดเหตุ รอให้ผู้เสียหายหรือฝ่ายสืบสวนหาพยานหลักฐานมาให้

หามาให้แล้วก็ยังไม่สอบสวน

ขณะเดียวกันสอบสวนล่าช้า ไม่แจ้งความคืบหน้า ไม่ให้ความเป็นธรรม มีพฤติกรรมในการใช้อำนาจหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่แล้วไม่ดำเนินการกับผู้กระทำความผิด

ตั้งด่านรีดไถประชาชน “มุ่งหวังเงินรางวัล” มากกว่าการแก้ไขปัญหา ทำให้การจราจรติดขัด

บังคับใช้กฎหมายแบบเลือกปฏิบัติ ไม่เสมอภาคเท่าเทียม และไม่เป็นธรรม

ใช้กิริยาวาจาไม่เหมาะสม กระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุ กระทำผิดกฎหมายเสียเอง และพฤติกรรมอื่นๆ ที่ประชาชนต้องการให้ตำรวจทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ควบคุมอาชญากรรมให้อยู่ในระดับที่ประชาชนรับได้ เมื่อมีคดีเกิดขึ้นแล้วต้องจับกุมให้ได้โดยเร็วเพื่อเป็นการเยียวยา การอำนวยความยุติธรรมต้องมีการสืบสวนสอบสวนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง ต่อเนื่อง และเป็นธรรม

ส่วนฝั่งตำรวจเองก็อยากให้มีการปฏิรูปเพราะการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย ระบบอุปถัมภ์ การซื้อขายตำแหน่ง การถูกย้ายโดยไม่สมัครใจไปนอกหน่วยเกิดความเดือดร้อนและปัญหาครอบครัว

ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาบำเหน็จความชอบ การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม

การมีตำแหน่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงมากเกินไป บางตำแหน่งไม่มีงานทำเป็นตำแหน่งที่กำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางให้อำนาจทางการเมือง หรืออำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ชอบและไม่เป็นธรรม

การขาดกำลังพลผู้ปฏิบัติ โดยเฉพาะสายตรวจที่ต้องตรวจตราป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พนักงานสอบสวนและผู้ช่วยพนักงานสอบสวนในการให้บริการและอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

การขาดระบบและกฎเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย(Spec)ของตำแหน่งงานตำรวจในหน้าที่ต่างๆที่จะต้องสร้างและพัฒนาความเป็นมืออาชีพของตำรวจ

ขาดความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาในการใช้อำนาจสั่งไปช่วยราชการ หรือแต่งตั้งโดยไม่คำนึงถึงปัญหาของหน่วยปฏิบัติในระดับสถานีตำรวจที่ต้องมีกำลังพลที่เพียงพอทำหน้าที่ในภารกิจต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อย การให้บริการ และการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่คำนึงถึงความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน ทำให้เกิดปัญหา “การฆ่าตัวตาย” การไม่มีประสิทธิภาพ ผลกระทบก็ตกกับประชาชน ทำให้ “ขาดความเชื่อมั่นศรัทธา”

การฝึกอบรมและการพัฒนาบุคลากรในสายงานต่างๆเพื่อพัฒนาความรู้ให้ทันต่อสถานการณ์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สร้างทักษะและความรู้ความสามารถเพื่อความเป็นมืออาชีพในแต่ละสายงาน

เงินเดือน ค่าตอบแทน เงินประจำตำแหน่ง สวัสดิการต่างๆที่เหมาะสมและเพียงพอให้ข้าราชการตำรวจในตำแหน่งต่างๆดำรงชีพและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีในหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์

ขาดงบประมาณ ยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ครุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่เพียงพอและทันสมัยและเหมาะสม

ที่สำคัญ ปัจจุบันตำรวจต้องทำหน้าที่ที่ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจแต่ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำ เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งที่หน้าที่ที่ต้องทำยังทำได้ไม่ดียังไม่เป็นมืออาชีพ

สรุปแล้วคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม “โลกสวย” ยังคง “ห่วย” ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหา

คาราคาซังอยู่จนถึงปัจจุบัน

 

RELATED ARTICLES