ชดใช้แล้วหายกันอย่างนั้นหรือ

เคยเดินลงจากเครื่องบินตอนไปเที่ยว พรุ่งนี้จะกระโดดจากเครื่องบิน ตอนอยู่บนอากาศแล้วค้าบบ

“โดดร่ม โดดร่ม โดดร่ม สมัยนี้นิยมไม่ว่าตำรวจหรือทหาร… ^^ ภาคพื้นดินจบแล้ว ต่อไปภาคอากาศ จะออกไปแตะขอบฟ้าแล้วน่ะฮะ”

โพสต์สุดท้ายที่สะเทือนใจคนเป็นของ นรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 69 เข้าฝึกโดดร่มที่ค่ายนเรศวร จังหวัดเพชรบุรี ตามหลักสูตรนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 2

ร่มไม่กาง ร่างร่วงตกไปกระแทกพื้นเสียชีวิต

พร้อม นรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจร่วมรุ่น

โศกนาฏกรรมประวัติศาสตร์อีกบทของโรงเรียนนายร้อยตำรวจครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 ครอบครัวของทั้งคู่พยายามต่อสู้เรียกร้องหาคนรับผิดชอบจากอุบัติเหตุที่เกิดจาก “น้ำมือมนุษย์” ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยนาน 4 ปีกว่า

ศาลปกครองจังหวัดเพชรบุรี มีคำพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ครอบครัวนักเรียนนายร้อยตำรวจผู้ล่วงลับทั้งสองนาย

ระบุข้อเท็จจริงและข้อมูลทางเทคนิคปรากฏว่า ชุดสลิงที่ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด นำมาติดตั้งกับเครื่องบินคาซ่า หมายเลข 28053 ที่ใช้ในการฝึกโดดร่มในระดับความสูง 1,250 ฟุต

มีร่องรอยการกลึงและการเจียเพื่อปรับแต่งผิวปลอกรัดของชุดปรับแรงตึงสลิงทั้งด้านและขวา และขอเกี่ยวท้ายเครื่องบินซ้ายและขวาจำนวน 4 ชิ้นด้วยเครื่องมือที่ไม่เหมาะสม

ผิดไปจากมาตรฐานที่ควรเป็น เมื่อเทียบกับอุปกรณ์เดียวกับที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องบินและที่กองบินตำรวจได้จัดซื้อมาใหม่

พิจารณาข้อมูลทางเทคนิคของชุดสลิงที่ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด นำมาติดตั้งกับเครื่องบินลำเกิดเหตุ พบชุดยึดปรับแรงดึงสลิงด้านหัวเครื่องบินด้านซ้ายและขอเกี่ยวด้านท้ายเครื่องบินด้านซ้าย ชุดยึดปรับแรงดึงสลิงด้านหัวเครื่องบินด้านขวา และขอเกี่ยวด้านท้ายเครื่องบินด้านซ้ายไม่พบเลขชี้บ่ง และพบว่าปลอกรัดปลายสายสลิงทั้ง 4 สาย ทำขึ้นมาใหม่ไม่พบเลขชี้บ่ง โดยสลิงมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.40 มิลลิเมตร ขณะที่อุปกรณ์ชุดยึดปรับดึงสลิงและขอเกี่ยวของชุดสายสลิง จำนวน 2 ชุดที่จัดซื่อมาใหม่ พบชุดเลขชี้บ่งแต่ละชิ้น และปลอกรัดปลายสายสลิงทั้ง 4 ปลายพบเลขชี้บ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน คือ 7.30 มิลลิเมตร

หากคณะกรรมการติดตามการตรวจซ่อมอากาศยาน ทำหน้าที่ติดตาม และตรวจสอบความสมบูรณ์ของการซ่อม ร่วมกับบริษัทผู้รับซ่อม รวมถึงการตรวจสอบความเรียบร้อยหลังการซ่อมจะทราบได้ว่า ชุดสลิงที่ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด นำมาติดตั้งกับเครื่องบินลำเกิดเหตุ มีร่องรอยการดัดแปลงทุกชิ้นส่วน

มีลักษณะทั้งทางกายภาพและเทคนิคที่แตกต่างไปจากชุดสลิงที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากผู้ผลิต และทดสอบแรงดึงมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้ว

การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้องให้การว่า นักบินและช่างอากาศยานได้ตรวจสายสลิงก่อนทำการบินด้วยการสัมผัสและสายตาแล้ว กลับเป็นการรับมอบเครื่องบินลำเกิดเหตุนั้นมาใช้ในราชการทั้งที่ชุดสลิงมีลักษณะทั้งทางกายภาพ และเทคนิคแตกต่างไปจากชุดสลิงที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากผู้ผลิต

          รับฟังได้ว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง ไม่ได้ติดตาม ตรวจสอบความสมบูรณ์ของการซ่อม ร่วมกับบริษัทผู้รับซ่อม รวมถึงการตรวจพินิจความเรียบร้อยหลังการซ่อมก่อนส่งกองบินตำรวจเพื่อใช้ในราชการ

   กรณีนี้จึงเป็นการที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง ละเลยต่อหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง รับมอบเครื่องบินลำเกิดเหตุมาใช้ในราชการ และต่อมานำเครื่องบินนั้นมาสนับสนุนการโดดร่มของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ก่อนสายสลิงที่เป็นอุปกรณ์หลักในการใช้กระตุกร่มหลุดจากส่วนย้ำขั้วต่อฝั่งซ้ายด้านหัวเครื่องบิน ทำให้สายสลิงนั้นไม่กระตุกสายร่มเพื่อดึงร่มให้กลาง ทำให้ร่มของบุตรชายทั้ง 2 คนของผู้ฟ้อง ไม่กางแล้วร่างจึงตกลงมากระแทกพื้นจนเสียชีวิตทั้ง 2 ราย

เป็นการที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ , วิสัย และพฤติการณ์ อันเป็นการประมาทเลินเล่อของ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง ที่ละเลยต่อหน้าที่ทำให้บุตรของผู้ฟ้องถึงแก่ความตาย

เป็นการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 สำนักงานตำรวจผู้ถูกฟ้องซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ผู้กระทำละเมิด ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องทั้งสาม

ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำพิพากษา  ให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง ชดใช้เงินแก่ นายสาธร พุทธชัยยงค์ ผู้ฟ้องที่ 1 บิดาของ นรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ เป็นค่าปลงศพ 277,000 บาท   ค่าขาดไร้อุปการะจำนวน 2,088,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,365,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไป นับแต่วันที่ 26 มีนาคม 2558 ที่ถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีคำพิพากษา

ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้ถูกฟ้อง ชดใช้เงินแก่นายจตุรงค์ ติรสุวรรณสุข ผู้ฟ้องที่ 2 และนางบุศรา ติรสุวรรณสุข ผู้ฟ้องที่ 3 บิดาและมารดาของ นรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข ค่าปลงศพ 279,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะสำหรับนายจตุรงค์ บิดา 2,088,000 บาท และสำหรับนางบุศรา มารดา 1,728,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,095,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่ 26 มีนาคม 2558 ที่ถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีคำพิพากษา

คือ บทสรุปเบื้องต้นจากชวนเหตุของ “ความชุ่ย” ของตำรวจบางนาย ทำให้สูญเสียนักเรียนนายร้อยตำรวจอนาคตไกลไปพร้อมกันถึง 2 นาย

 แล้วท้ายสุดจะลอยนวลพ้นคุกหรือ ???

 

 

RELATED ARTICLES