ร้องผู้เป็นนายหอบเงิน 229 ล้านหายไปไหน

วันก่อนว่าถึงพฤติกรรมของ “ผู้เป็นนาย” ชักชวนลูกน้องกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยไปปัดเป่าภาระหนี้สินสถาบันการเงินที่หลายคนกำลังจ่อสถานะโดนฟ้องล้มละลาย

เป็นโครงการแก้ปัญหาที่ดีหากไม่มีเบื้องหลังแอบแฝง

 วันนี้ปรากฏชัดเจนแล้วว่ากลายเป็นชนวนตำรวจอีสานระทมเพราะอะไร 

หลังจากตัวแทนข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับถึงสารวัตรจากโรงพักภูธรในพื้นที่จังหวัดเลยเข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ผ่าน พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4

กลุ่มผู้ร้องเรียนมาในฐานะตัวแทนตำรวจที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่เข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ 194 ราย จำนวนกว่า 229 ล้านบาท กำลังถูกยึดบ้าน ยึดรถ ไม่มีเงินประทังชีวิตและครอบครัว

เพราะถูกหักเงินเดือนไปใช้หนี้สหกรณ์

เอกสารร้องเรียนสรุปรายละเอียดว่า เมื่อปีงบประมาณ 2560 ช่วงเดือนมกราคม ถึงพฤษภาคม ตำรวจภูธรจังหวัดเลยจำนวน 194 นาย เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้เข้าร่วมโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์รวมวงเงิร 229,476,804   บาท ไปชำระปิดบัญชีจากเจ้าหนี้สถาบันการเงืนต่าง ๆ จากภายนอกให้เป็นหนี้สหกรณ์กับสหกรณ์เพียงแห่งเดียวเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลาย โดยมี พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ขณะนั้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลยและเป็นประธานสหกรณ์คิดโครงการบริหารหนี้ขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ให้บริหารจัดการหนี้สินให้หมดไปโดยเร็ว

ต่อมา พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช เรียกประชุมสมาชิกที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย เสนอผลประโยชน์ให้ผู้เข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ มีตัวเองจะรับผิดชอบนำเงินไปผ่อนชำระสถาบันการเงินเจ้าหนี้ให้ทุกเดือนจนปิดบัญชียอดหนี้ทั้งหมดเมื่อถึงระยะเวลาสิ้นสุดตามโครงการ 3 ปี

อีกทั้งจะจ่ายเงินค่าตอบแทนแก่สมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการเดือนละ 5,000   บาทต่อยอดเงิน 1   ล้านบาท จนสิ้นสุดโครงการจะนำเงินไปชำระหนี้สินสหกรณ์หลักจากที่สหกรณ์หักเงินต่าง ๆ ของสมาชิกตามปกติแล้วเพื่อให้ยอดหนี้ลดลงทุกเดือน

เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี จะคืนเงินให้สมาชิกร้อยละ 50 ของยอดเงินที่เข้าร่วมโครงการเพื่อนำไปตัดหนี้คงเหลือกับสหกรณ์

หากสมาชิกผู้ใดไม่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการอีกต่อไปจะนำเงินไปปิดบัญชีที่สมาชิกเป็นลูกหนี้สถาบันการเงินทันที

หลายคนเชื่อในความหวังดีของผู้บังคับบัญชาตอบตกลงเข้าโครงการบริหารหนี้ ยื่นเรื่องกู้เงินจากสหกรณ์ ก่อนเซ็นชื่อรับเช็คจากสหกรณ์และเซ็นสลักหลังเช็คมอบให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รับเงินไปยอดที่เข้าร่วมโครงการ

เรื่องมาแดงขึ้นเมื่อสมาชิกได้รับการทวงหนี้จากธนาคารต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ของสมาชิกว่า มีการค้างชำระหนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ถึงเดือนมีนาคม 2561 เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอีกหลายที่สมาชิกเป็นมีภาระหนี้เก่าอยู่ พอสอบถามไปถึงทีมงานผู้เป็นนายที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่แล้วได้รับคำตอบว่า ระบบการเบิกจ่ายเงินถูกล็อกกำลังแก้ไขระบบ

สมาชิกจึงแจ้งขอยกเลิกการเข้าร่วมโครงการบริหารหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยเพื่อขอนำเงินไปปิดปัญชีเจ้าหน้าที่ของสมาชิกตามข้อตกลงเดิม

กลับถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา

ทำให้หลายครอบครัวประสบปัญหาหนี้สินเป็นลูกโซ่เสมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แม้กระทั่ง กลุ่มที่ค้ำประกัน เงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ยังตกกระไดพลอยโจนแบกภาระไปไปด้วย

แม้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ที่ปัจจุบันเลื่อนตำแหน่งเป็น รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ให้คำมั่นว่าจะนำเงินไปปิดบัญชีตั้งแต่เดือนมีนาคมก่อนจะเงียบหายไป

อีกทั้งยังไม่พร้อมจะสัมภาษณ์แก้ต่างถึงเหตุผลอะไรต่อสื่อมวลชน

 

 

 

 

 

RELATED ARTICLES