ตำรวจไทยที่ข้าพเจ้าเคยเห็น

ลองมาอ่านมุมมองของคนนอกรั้วปทุมวันอย่าง ฮ.นิกฮูกี้ นักเขียนชื่อดังที่โพสต์เรื่องราว “ตำรวจไทยที่ข้าพเจ้าเคยเห็น” ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว

เผื่อสะท้อนไปยังผู้มีอำนาจและคนคิดต่างได้ไม่น้อย

เขาบรรยายว่า

“ตำรวจไทยที่ผมได้เห็น ผมก็ได้เห็นด้วยสายตาดวงเดียวกับท่านทั้งหลาย”

ที่ตำรวจก็คืออีกอาชีพหนึ่งที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกัน ที่ถ้าตำรวจมีใจเด็ดเดี่ยวมั่นคง ก็จะแก้ไขปัญหาของวงการตนได้ คือ กำราบตำรวจเลว ยกย่องตำรวจดี วงการตำรวจก็จะพอเป็นไปในทิศทางที่ดีได้

แต่ถ้าเมื่อใด สมัยใด ที่วงการตำรวจเต็มไปด้วย “สีเทา” ที่ถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากคนในสังคม เมื่อนั้นตำรวจ หรือผู้มีอำนาจก็จะต้อง “ผ่าตัดใหญ่” วงการตำรวจ

เพราะคำว่า “ตำรวจ” มีหน้าที่อันหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องอย่างสำคัญกับชีวิตของผู้คน เป็นต้นธารของขบวนการยุติธรรม เป็นต้นธารของสังคมก็ว่าได้ เพราะถ้าเมื่อใดสังคมไม่สามารถอบรมคนในสังคมให้เป็นคนดี ทำให้สังคมสงบสุขได้แล้ว เมื่อนั้นก็จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องฝากสังคมเอาไว้กับ “ตำรวจ” ผู้เป็นต้นธารของขบวนการยุติธรรม

ฮ.นิกฮูกี้ บอกด้วยว่า มีคำกล่าวที่เป็นสัจธรรมมานานแล้ว ไม่รู้ว่า คนรุ่นใหม่จะเคยได้ยินไหม คำกล่าวที่ว่า

“ตำรวจฉ้อราษฎร์ ทหารบังหลวง

อธิบายความหมายที่ว่า ถ้าตำรวจไม่ดี เขาจะทรยศคดโกงทำร้ายประชาชน เพราะเขาต้องข้องเกี่ยวกับประชาชน หากินกับประชาชนได้ ส่วนทหารนั้น ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับประชาชน แต่ทหารเป็นองค์กรปิด ถ้าทหารไม่ดีจะบังหลวง หาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน องค์กรอื่นก็ไม่อาจตรวจสอบได้

ในกาลนี้สมัยนี้ ตำรวจดีๆ ก็ยังมีอยู่ แต่จะมีจำนวนมากเท่าใดไม่ทราบได้ และไอ้คำที่ว่า “ดี” นั้น เป็นคำว่า “ดี” สำหรับใคร เช่น ใครช่วยเรา เราก็ว่า เขาดี ใครไม่ช่วยเรา เราก็ว่าเขาไม่ดี เป็นต้น

ตำรวจจะต้องไม่ใช่ดีของใคร แต่ตำรวจที่ดีจะต้องดีกับหน้าที่ของตน คือ ทำหน้าที่ของตนให้ครบถ้วน ถูกต้อง สมบูรณ์ เช่นนี้จึงจะกล่าวได้อย่างมั่นคงว่า

ตำรวจนายนั้นเป็นตำรวจที่ดี

ตอนนี้คนด่ากันมากว่าตำรวจไม่ทำงาน เช่น มีคดีใดก็ให้เจ้าทุกข์ไปหาหลักฐานมาเอง อย่างนี้เลวมาก หรือตัวอย่างที่เห็นในเวลานี้ น้องผู้หญิงคนหนึ่งถูกคนอ้างว่า ตกรถตาย ตำรวจก็แค่เออ อุบัติเหตุเนาะ กูจะได้ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย ถ้าตำรวจมีสามัญสำนึกเสียหน่อย จะต้องมีคำถามที่คนทั่วไปก็ตั้งคำถามได้ว่า ทำไมคนถึงตกรถ ถ้ามันไม่มีเหตุร้าย คนจะกล้ากระโดดรถออกมาเชียวหรือ เช่นนี้ตำรวจก็ต้องสอบสวนหาสาเหตุและพยานหลักฐาน ก็จะพบว่ามันไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่มันคือ การฆาตกรรม และจะต้องจับฆาตกรชั่วมาลงโทษให้ได้

แต่นี่อะไร เขาว่าอะไรก็ว่าตามเขา

ถ้าเจ้าทุกข์เป็นคนใหญ่คนโต มีสินจ้างรางวัลให้ เช่นนี้ตำรวจค่อยขยันขันแข็ง แล้วอย่างนี้เราจะมีตำรวจไว้ทำไม แล้วอย่างนี้ชาวบ้านจะอยู่ได้อย่างไร

สำหรับความเห็นของผมเกี่ยวกับการผ่าตัดวงการตำรวจ ท่านลองดูเถิดว่า ตำรวจที่หย่อนยาน เขาหย่อนยานเพราะอะไร ใช่หรือไม่ เพราะเขาคิดว่า เขาคงหาโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากการทำงานได้ยาก”

เพราะถ้าคนคิดว่า คนจะก้าวหน้า ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง เกิดจากการเป็นเด็กของใคร จ่ายเงินซื้อตำแหน่งได้ไหม ถ้าคนคิดว่า การก้าวหน้าเกิดจากตรงนี้ เขาก็ไม่ต้องทำงาน เขาแค่หาเงิน เป็นเด็กของนาย เขาก็ได้ขึ้นแล้ว เช่นนี้เขาก็ไม่ต้องทำงาน หรือ ถ้าเขาคิดว่าเงินตนก็ไม่มี นายกูก็ไม่รัก เช่นนี้ กูก็อยู่ไปวันๆ เถิด

สิ่งนี้ทำให้ตำรวจกลายเป็นคนหย่อนยาน

คนรู้ๆ กันอยู่ว่า ทางก้าวหน้าของตำรวจ ต้องไปทางใด ถ้าเราไม่แก้ไขที่ต้นเหตุ เราก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ ที่เราก็พยายามแก้ไขกันมาหลายสิบปีแล้ว ก็แก้ไขกันไม่ได้เสียที

ในเมื่อทำทางนี้กันมาเสียนานแล้ว ก็ยังทำกันไม่ได้ แก้ไขกันไม่สำเร็จ ทำไมไม่ลองทางใหม่ดูบ้าง เอาแบบอเมริกาที่เขาเสนอๆ กัน คือ ตำรวจไม่ต้องมียศศักดิ์ให้มาก แค่แบ่งเป็นเขตท้องที่ โตกันก็โตกันในท้องที่ แล้วก็เกษียณกันไปแค่นั้น คนที่จะหวังก้าวหน้าในหนทางไกลก็จะไม่ต้องมี

“ไอ้ที่หวังจะเป็นนายพลก็ไม่ต้องหวังกัน อย่างเก่งก็เป็นได้แค่ผู้กำกับในเขตท้องที่ ที่ไม่ต้องมีลำดับชั้นยศกันมากนัก เช่นนี้คนที่จะมาเป็นตำรวจก็จะมาเป็นตำรวจ เพราะใจรัก”

ส่วนการควบคุมดูแล การจัดสรรกันนั้น เชื่อว่า ท่านที่มีความรู้ความสามารถคงคิดอ่านกันได้สำเร็จ

ทั้งหมด ฮ.นิกฮูกี้ ฝากมุมมองจากคนนอกรั้วปทุมวันได้อย่างตรงใจ

ตรงประเด็นที่สุด  

RELATED ARTICLES