ร่างปฏิรูปตำรวจของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ มีอีกสิ่งที่ร่างของ “เฒ่ามีชัย ฤชุพันธุ์” ไม่ได้มีบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับนำส่งรัฐบาลทหาร
เป็นการพัฒนาการศึกษาและฝึกอบรมตำรวจครอบคลุมทุกตำแหน่งต่อเนื่องตลอดชีวิตราชรับราชการ
เป้าหมายเพื่อปรับโครงสร้างองค์กร อัตรากำลัง ระบบบริหารงานบุคค ด้านการพัฒนา ศึกษาและฝึกอบรมตำรวจเหมาะสมสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ มีระบบสรรหาที่ได้คนมีสมรรถนะเหมาะสม สร้างหลักสูตรการฝึกอบรมสอดคล้องกับสมรรถนะที่ต้องการ
ข้าราชการตำรวจจะได้รับการพัฒนาตลอดช่วงชีวิตการรับราชการ
สู่ความเป็นตำรวจมืออาชีพ
แนวทางการดำเนินการ คือ เริ่มต้นพัฒนาโครงสร้างหน่วยงานฝึกอบรม อาคารสถานที่ อุปกรณ์ รวมไปถึงระบบการสรรหา การบริหารงานบุคคลของผู้บริหารครู อาจารย์ของสถาบันการศึกษาอบรม ปรับปรุงหลักสูตรนายสิบตำรวจ นายร้อยตำรวจ นักเรียนอบรมเฉพาะทาง
หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย โรงเรียนนายร้อยตำรวจ กองบัญชาการศึกษา วิทยาลัยการตำรววจ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนที่มีกองบังคับการฝึกพิเศษ และสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
บทบาทอำนาจหน้าที่สถานีตำรวจและหน่วยงานแต่ละระดับ จะมีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาอบรมภาพรวม ฝีกอบรมหลักสูตรกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝึกอบรมระดับผู้บังคับการขึ้นไป
เริ่มตั้งแต่ส่วนปฏิบัติการป้องกันปราบปราม
โรงพักจะต้องฝึกอบรมพัฒนาผู้บังคับหมู่ ทบทวนยุทธวิธีตำรวจ การปฏิบัติประจำวัน ขณะที่ระดับกองบังคับการหรือกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจะทำหน้าที่ฝึกอบรมพัฒนารองสารวัตรไปถึงรองผู้กำกับการ มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ฝึกอบรมพัฒนารองผู้บังคับการและผู้กำกับการ
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งประชาคมและเครือข่ายตำรวจในจังหวัดและชุมชน ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแต่ละจังหวัดเป็นจุดเชื่อมโยง จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย มีคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการบริหารงานตำรวจที่ดีประจำจังหวัดที่ “ผู้ว่าราชการจังหวัด” นั่งเป็นประธาน
เพิ่มประสิทธิภาพงานตำรวจ พัฒนาสถานีตำรวจด้วยการจัดขนาด S-M-L กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติให้มีการประเมินผล รวมทั้งจัดตั้ง “สำนักงานยุทธศาสตร์และพัฒนาระบบงานตำรวจ”
พัฒนามาตรฐานกระจายอำนาจและเพิ่มขีดความสามารถงานนิติวิทยาศาสตร์ทุกระดับ
เสนอพิจาณากำลังพลทางเลือก “ตำรวจกองประจำการ” แก้ปัญหาขาดแคลนกำลังพล
สำหรับการปรับปรุง ค่าตอบแทนข้าราชการตำรวจ ตามรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญไว้ว่า ค่าตอบแทนส่งผลเป็นนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพของข้าราชการตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย จำเป็นต้องดำเนินการเร่งด่วน โดยปรับอัตราเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามผลการศึกษาวิจัยของมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง โดยไม่ต้องรอการแก้กฎหมาย
แต่เนื่องจากผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว ยังไม่ครอบคลุมครบถ้วนทุกสายงานและระดับตำแหน่ง คณะทำงานจึงเห็นควรมอบหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันศึกษาให้ครอบคลุมแล้วนำเสอนคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
น่าเสียดายทั้งหมดที่ร่างและวาดหวังไว้ดันกลายเป็นหมัน !!!