วันที่ 13 ตุลาคม 2495
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน ณ ลานพระราชวังดุสิต พระราชทาน “ธงชัยเฉลิมพลประจำหน่วยของตำรวจ” เป็นครั้งแรก เนื่องในพิธีสวนสนาม “วันตำรวจ”
พระองค์พระราชทานพระบรมราโชวาทความตอนหนึ่งว่า…
ท่านทุกคนได้กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าเรา ต่อหน้าพระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทน ข้าราชการทั้งหลาย ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รวมทั้งบรรดาผู้มีเกียรติที่มาชุมนุม ณ ที่นี้ ได้เป็นพยานอยู่พร้อมกัน
ฉะนั้นท่านต้องถือว่า คำสัตย์ปฏิญาณนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำใจ ทุกคนต้องรักษาวาจาสัตย์นี้ไว้
อย่าให้เสียวาจานั้นเป็นอันขาด
การเสียวาจาสัตย์ย่อมหมายถึงการเสียเกียรติยศตำรวจซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ได้รับหน้าที่อันมีเกียรติสูงก็จะเป็นการน่าอับอายที่สุด
ที่ข้าพเจ้ากล่าวเตือนมาเช่นนี้ก็เพื่อประสงค์ให้มีความดีเสมอกันหมด ให้เป็นที่นับหน้าถือตาของชนทุกชั้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจชั้นใด จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรก็ดี ชั้นนายสิบ หรือพลตำรวจก็ดี นับเป็นผู้มีเกียรติเสมอเหมือนกันหมด คือ เกียรติแห่งลูกผู้ชายที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยภายในแห่งบ้านเมืองตน ให้สมกับคำสัตย์ปฏิญาณที่ได้กล่าวไว้โดยไม่คิดถึงประโยชน์ตัวเอง นึกถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายจงตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการตามหน้าที่ของตนตามตำแหน่งตามชั้นอย่างเต็มที่ เพื่อชาติบ้านเมืองของเราจะได้ยั่งยืนถาวรเหมือนอย่างบรรพบุรุษของเราได้กระทำมาแต่ก่อน
ในการที่ข้าพเจ้าได้มอบธงชัยให้แก่หน่วยต่าง ๆ ในกรมตำรวจในวันนี้ก็โดยที่ระลึกว่า หน้าที่สำคัญของตำรวจทั้งหลายในปัจจุบัน มิใช่เพียงรักษาความสงบภายในบ้านเมืองเท่านั้น แต่ต้องป้องกันความไม่สงบที่อาจจะมาจากภายนอกประเทศอีกด้วย
ธงนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะเป็น สัญลักษณ์แทนข้าพเจ้า ผู้ซึ่งเอาใจใส่ตัวท่านทั้งหลายตลอดเวลา เพราะเป็นที่หมายที่เคารพในเวลาที่กองตำรวจได้เข้าเป็นหมวดหมู่อยู่ประจำ และเมื่อถึงวาระจำเป็นเข้าที่คับขัน เมื่อท่านได้ระลึกถึงธงชัยนี้แล้วก็จะเป็นเครื่องชักนำให้องอาจกล้าหาญ และร่าเริงใจที่จะประกอบหน้าที่บำเพ็ญตนให้สมกับเป็นตำรวจของชาติ
อย่าให้ผู้ใดติเตียนว่า เราเกิดมาเสียชาติได้ ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงรับธงนี้ไว้ด้วยความรักและความเคารพเทิดทูน และพิทักษ์รักษาธงนี้ไว้ยิ่งกว่าชีวิตตน และให้เป็นมิ่งขวัญที่เป็นศักดิ์ศรีของกรมตำรวจสืบไป…
ผ่านไป 66 ปี กับวันนี้ที่ไม่มีพระองค์ท่าน
เป็นวันครบรอบ 2 ปี ที่ไม่มีการจัดกิจกรรมรื่นเริงวันตำรวจ
เป็นวันรำลึก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต
น้ำตาคนไทยทุกหยดยังจดอยู่ในความทรงจำ
ธ สถิตอยู่ในดวงใจตำรวจไทยตราบชั่วนิรันดร์
