บ่อยครั้งแสดงความเห็นโดนใจตำรวจส่วนใหญ่
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562
ว่าถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจแบบตรงไปตรงมา
ขออนุญาตหยิบยกมานำเสนอ
เจ้าตัวเกริ่นว่า พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ …… และ ร่าง พ.ร.บ. การสอบสวนคดีอาญา ….. เพื่อการปฏิรูปโครงสร้าง ระบบ รูปแบบ บทบาท อำนาจหน้าที่ของตำรวจ ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ) ดำเนินการเสร็จสิ้นไปตั้งนานสองนานแล้วหายไปไหน??
ใครทำหาย หรือแกล้งทำหาย หรือเก็บไว้เฉยๆ ดึง หรือ ดอง หรืออย่างไร
ไหนว่าต้องปฏิรูปให้เสร็จภายใน 1 ปี ใครต้องรับผิดชอบ ช่วยตอบสังคมที
“เนติบริกร” แปลว่าอะไร ?
คำนี้ไม่มีคำแปลในพจนานุกรม คงด้วยคิดไม่ถึงว่าจะเกิดคนประเภทนี้ขึ้นมาได้ ตีหน้าสด หน้าเศร้าเล่าความเท็จใช้ข้อเท็จจริงผสมข้อกฎหมาย พลิกแพลง บิดเบือนบอกประชาชนให้หลงเชื่อในความเป็นนักกฎหมาย นักวิชาการทางกฎหมาย ครูบาอาจารย์ทางกฎหมาย โดยไม่อายฟ้าดินไม่อายลูกศิษย์ลูกหา เพียงเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้มีอำนาจ(อ้าวไหนว่าไม่มีคำแปล !!)
บางท่านให้ความหมายสั้นๆ กะทัดรัด “เนติบริกร” รับบริการทุกรัฐบาล มี 2 ประเภทคือ
คนพาลบริการคนผิด
บัณฑิตบริการคนดี
กระผมเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเนติบริกรแบบบริการคนดี หรือคนชั่วก็ตาม ถ้ามันผู้นั้นทรยศต่อวิชาชีพของตนไม่ว่าจะเพื่อใคร ตัวผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่า เป็นคนเลวเสมอเหมือนกัน ตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ มีวิชาชีพเป็นนักมวยไปชกมวยรายการกุศล(กิจกรรมที่ดี) แต่นักมวยคนนั้นไปล้มมวยจะถือว่า เลวไหมละครับ
ที่กระผมหยิบเรื่องนี้มาเขียนก็ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระผมไปชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับกฎหมายของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กระผมเป็นกรรมการร่วมอยู่ด้วย ได้พบกับท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูปตำรวจโดยบังเอิญ
ในคณะนั้นมีกระผมเป็นกรรมการร่วมอยู่ด้วย คณะกรรมการชุดนี้ได้ปิดจ๊อบไปหลายเดือนแล้วโดยส่งร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา………ทั้งสองร่าง พ.ร.บ.นี้ คือ การปฏิรูปโครงสร้าง ปฏิรูปการแต่งตั้งโยกย้าย ปฏิรูปบทบาท หน้าที่ อำนาจ ระบบรูปแบบการปฏิบัติงานของตำรวจให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 260 ต้องเสร็จภายใน 1 ปี (นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้)
เป็นความหวังความต้องการของสังคมประชาชนคนไทยและตำรวจเองที่ต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ
กระผมได้เข้าร่วมประชุมเกือบทุกนัด และพยายามสะท้อนปัญหา เสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงในทุกมิติเพื่อให้การปฏิรูปตำรวจออกมาดีที่สุด เพื่อองค์กรตำรวจเป็นองค์กรแรก และองค์กรเดียวในชีวิตข้าราชการของกระผมที่กระผมรักและหวงแหนจะได้กลับมาสู่ความรัก เลื่อมใส ศรัทธาของประชาชน
ทำกันจนเสร็จและให้เหลือช่วงเวลาที่สามารถเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อพิจารณาได้ทันในยุครัฐบาลนี้ สภานี้ รัฐธรรมนูญนี้ (แม้จะเกิน 1 ปีมาแล้ว)
คำแรกที่เจอหน้ากระผม ท่านอาจารย์มีชัยทักกระผมว่า “ผมได้ข่าวว่าคุณไปลงชื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติกับเค้าด้วย จริงไหม!”
แรกๆ เข้าใจว่าท่านพูดเล่น แต่ดูสีหน้าท่าทางท่านถามจริงๆ พูดจริงๆ เข้าใจเช่นนั้นจริงๆ จึงต้องรีบชี้แจงท่าน “ถ้ากระผมเป็นเช่นนั้นจริง เอาไปประหารชีวิตเลยครับ”
ผมต่อสู้ เรียกร้องให้ปฏิรูปตำรวจมาโดยตลอด ร่าง พ.ร.บ. สองฉบับนี้กระผมก็มีส่วนร่วมสำคัญในการร่วมยกร่างจนแล้วเสร็จ เหลือเพียงผ่านสภาออกมาบังคับใช้ แล้วทำไม? อยู่ที่ไหน? ใครเอาไปเก็บ เพราะเหตุใด
อาจารย์นั้นแหละต้องบอกกระผม
นอกจากนี้ผมยังถามอาจารย์เพิ่มเติมว่า ถ้าปฏิรูปตำรวจไม่เสร็จภายใน 1 ปี ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้โดยไม่มีเหตุอันควร (เอาไปใส่กล่อง ใส่ลังเก็บไว้ในห้องทำงาน) จะมีความผิดหรือไม่
ถ้าผิด ใครผิด?
ที่กระผมถามคำถามนี้ขึ้นก็เพราะมีนักกฎหมายออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่ผิด เพราะรัฐธรรมนูญไม่มีบทบัญญัติเรื่องความรับผิดไว้แต่อย่างใด แล้วความรับผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เอาไปทิ้งทะเลเสียทีไหนละครับ
ช่วยกันตามหาร่าง พ.ร.บ.เพื่อการปฏิรูปตำรวจทั้งสองฉบับให้เจอ…. ช่วยกันเสนอเข้าสู่กระบวนการให้ผ่านออกมาบังคับใช้ (ตามความเหมาะสม) ช่วยกันตรวจสอบบุคคลหรือคณะบุคคลที่เหนี่ยวรั้ง หยุดยั้งร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองไว้เพื่อการใด? มีเหตุอันควรหรือไม่ (หมองูตายเพราะงู) ทีเถอะครับ !!!
“น.ส.พ.พาดหัว 16 ก.พ.นี้ บิ๊กแป๊ะ นัดถกโผแต่งตั้ง สว. – รอง ผบก.ทั่วประเทศ” ตำรวจน้อยใหญ่อยู่ในอาการ หนาวสั่น เพราะไม่รู้อนาคตของตัวเองในเมื่อการแต่งตั้งโดยใช้อำนาจแต่งตั้ง (กฎ ก.ตร. มาโดย…)
แต่ถ้าเมื่อใดการแต่งตั้งโดยใช้หลักเกณฑ์ (ตาม พ.ร.บ.) จะได้ ไม่ต้องหนาว ไม่ต้องสั่น กันอีกต่อไป
กระผมนั่งเขียนไป… นั่งสงสารน้องๆ ตำรวจไป คิดอะไรไม่ออก ให้กลับไปท่องอุดมคติตำรวจ
อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
