ไพร่พลชั้นเลว

ตอนเข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของหน่วยครั้งแรก

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝากประโยคคำพูดไปถึงผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนว่า เมื่อผู้บังคับบัญชาไว้วางใจให้มารับตำแหน่ง เป็นผู้นำองค์กร เป็นตำแหน่งที่ท้าทาย มีความรับผิดชอบสูง ฉะนั้น สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาคาดหวังไว้ต้องทำให้ได้

“ผู้บังคับบัญชา ต้องทำตัวเป็นปุ๋ย ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง ไปตรงไหนจะเจริญงอกงาม ไม่ใช่ไปที่ไหน ที่นั่น ตาย”

หลายปีผ่านไป มี “ผู้เป็นนาย”จำนวนไม่น้อยทำตัวเป็น “ยาฆ่าแมลง” ทิ่มแทงหัวใจลูกน้องเจ็บช้ำน้ำใจไปหลายชีวิต

เสมือน “เมล็ดพันธุ์พิษ” งอกงามเกาะกินฐานราก “สำนักปทุมวัน” จนใกล้รอเวลาผุพัง บั่นทอน “เมล็ดพันธุ์ดี” แทบไม่มีที่ให้เจริญเติบโต

ไม่ต่าง “ไพร่พลชั้นเลวคนหนึ่ง” แต่ไม่เคยเหลวไหลในคำสั่งผู้บังคับบัญชา

เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญประจำ “ชุดศิลปิน” เพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทว่าระหว่างการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติ ร่างกายไม่อาจปรับสภาพอากาศที่ร้อนระอุจนมีอาการป่วยหนาว เลือดกำเดาไหล ถูกประสานนำส่งโรงพยาบาลตำรวจกลางดึก

แพทย์ตรวจอาการมีเอกสารวินิจฉัยว่า เป็นไข้ หนาวสั่น แต่ให้กลับบ้านได้ พร้อมลงความเห็นสมควรให้ หยุดพักรักษาตัวนาน 3 วัน

“นายกอง” ทำบันทึกรายงานถึง”ขุนพล” รับทราบสถานการณ์เพื่อรายงานต่อไปยัง “แม่ทัพ”

“แม่ทัพ” อ่านรายงานแล้วจัดแจงหยิบปากกาสะบัดหมึกเซ็นความเห็นทันทีไม่มีรีรอ

“ให้ทำหนังสือถึงต้นสังกัด ตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย และให้ส่งฝึกภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญเป็นเวลา 15 วัน”

“ไพร่พลชั้นเลว” หนึ่งเดียวนายนั้นไม่มีสิทธิปฏิเสธคำสั่ง “แม่ทัพ” ต้องยอมรับชะตากรรมตามคำบัญชา แม้ดูเหมือนว่า “แล้งน้ำใจ”

เมื่อเขาเป็นเพียง “ไพร่พลชั้นเลว” ย่อมถูกมองว่า “เลว” อยู่วันยังค่ำ

ผิดกับ “แม่ทัพ” นั่งชูคอสง่าผ่าเผย ทั้งที่ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาเชยชม เพราะเลือกทุ่มถม “เนื้อเงิน” มากกว่า “เนื้องาน”

ดังกังวานไปทั่วทุ่งปทุมวัน

“ไพร่พลชั้นเลว” หันไปมองกองทัพ

ขยับสายตาเห็นคำจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

“ไม่มีไพร่พลเลว  มีแต่แม่ทัพนายกองเลว”

มันทำเขาหัวเราะทั้งน้ำตา

RELATED ARTICLES