ใครอยู่เบื้องหลังบึมป่วนกรุง

เหตุการณ์บึมป่วนกรุงใครอยู่เบื้องหลัง

ย่อมเป็นคำถามที่สังคมสงสัยไม่ต่างจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการคุมกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

งานนี้เหมือน “เย้ยรัฐบาล” ที่ปราศจากอำนาจบนดาบ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ”

ชนวนแรกเริ่มต้นที่ป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเย็นวันที่ 1   สิงหาคม 2562 คนร้ายนำกล่องมันฝรั่งทรงกระบอกไปซุกไว้ในพุ่มไม้ใต้ป้ายสำนักปทุมวัน

มีการปิดกั้นถนนกันคนไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่

หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดเข้าเคลียร์ในเวลาชั่วโมงเศษพบแผงวงจรไฟฟ้าบรรจุในกลุ่มรวมอยู่กับตลับใส่ลูกปืน แต่ไม่มีเชื้อปะทุและดินระเบิด

มองกันว่า เป็นการป่วนให้เกิดความตื่นตระหนก รับขวัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจครั้งแรกในวันรุ่งขึ้น

หน่วยข่าว “บอดใบ้” ไม่มีข้อมูลมากกว่าประเด็นแหย่หนวดผู้นำประเทศ

ขณะที่หน่วยสืบทำงานกันอย่างหนักและไม่ยากเกินความสามารถ เพราะเต็มไปด้วย นักสืบมือพระกาฬ หลายคนที่เคยแกะรอยพิชิตแฟ้มระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ เมื่อไม่กี่ปีก่อนมาแล้ว

แต่แล้วในเช้าวันรุ่งขึ้นมีเสียงบึมติดต่อกันหลายจุดทั่วกรุงตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบีเอสช่องนนทรี ถึงศูนย์ราชการ และป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  และเกิดไฟไหม้ปริศนาบริเวณตลาดประตูน้ำ

เหมือนขบวนการที่อยู่เบื้องหลังจงใจให้เกิดในเวลาเร่งด่วนป่วนเจ้าหน้าที่และคนเมืองหลวงไล่เลี่ยกัน

หนักสุดบริเวณถนนพระราม 9 กลางซอยพระรามเก้า 57/1 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ที่ทำเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของกรุงเทพมหานครบาดเจ็บถึง 3 ราย

หลายฝ่ายมุ่งประเด็นไปเรื่องการเมืองดิสเครดิตรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ทว่ามีบางส่วนมองไปในเรื่องความมั่นคงโยงขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาก่อเหตุ “ตอกหน้า” เจ้าหน้าที่รัฐ

หลังจากกองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาลตามรอยผู้ต้องสงสัยป่วนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดักจับกุม นายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/6 หมู่ 4 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส และ นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ตำบลสาวอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ขณะนั่งรถทัวร์กลับถิ่นเกิดผ่านด่านตรวจปฐมพร ถนนเพชรเกษม หมู่ 9 ตำบลวังไผ่ อำเภอเมืองชุมพร

ข้างตัวพบกล่องขนมขบเคี้ยวทรงกลม ภายในมีขวดโลหะทรงกลมพร้อมฝาบน ปิดทับด้วยโฟมสีขาวตัดเป็นรูปวงกลม มีสายไฟและถ่านไฟขนาดเล็กพันอยู่ ลักษณะคล้ายระเบิดเวลา

ทั้งคู่ถูกคุมตัวไปเค้นปากคำขยายผลเครียด แต่ยังให้การปฏิเสธ

ถามว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สมรภูมิปลายด้ามขวานกล้าข้ามมาลงมือป่วนนอกพื้นที่เป็นไปได้หรือ

บางคนอาจไม่รู้ตื้นลึกหนาบางตามแนวทางสืบสวนของตำรวจก่อนหน้าที่โยงใยเหตุวางคาร์บอมบ์หน้าโรงพักเมืองภูเก็ต บึมห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ป่วนระเบิดย่านท่องเที่ยวใจกลางเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้ง วางบึมแผงขายเสื้อผ้าหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง

แสดงให้เห็นศักยภาพของผู้ก่อความไม่สงบใน 3จังหวัดภาคใต้

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตเปรียบเทียบสมัยที่ตัวเองนั่งเก้าอี้ “หัวโขน” เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

“อยากให้ทุกคนได้คิดกันว่า ทำไม 5 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์อย่างนี้แทบไม่มีเลย แล้วทำไมมามีเหตุอย่างนี้ในช่วงนี้ ดังนั้น ต้องมองสถานการณ์ในวันนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องกลับไปทบทวนว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับใครบ้าง ในอดีตที่ผ่านมามีหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเก่าๆอยู่บ้าง”

ส่วน พล.อ.อภิรัขต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกมองไม่ต่างกัน

“รูปแบบการก่อเหตุคล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2549 เป็นกลุ่มคนเดิม แนวคิดเดิม จากสำนักเดิมที่เคยระเบิดป้อมตำรวจหลายจุด สิ่งที่เป็นห่วงคือ จะมีฝ่ายการเมือง หรือพวกที่ไม่หวังดีกับประเทศ มาใส่ความว่าฝ่ายความมั่นคงทำเรื่องแบบนี้เอง ทั้งที่มาจากกลุ่มเดิมๆ ความคิดเดิมๆ คนสั่งการคนเดิม แต่คนลงมืออาจเป็นคนหน้าใหม่”

มีเพียง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ฟันธงโยงถึงกลุ่มใดตราบที่ยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน พร้อมกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนห้ามให้ข่าว

เพราะเกรงจะเกิดความสับสน

พ่นน้ำลายวิเคราะห์กันมันปาก