ด้วยนิตยสาร COP’S ครบรอบ 13 ปี ทีมงานยังคงมอบรางวัลให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ตำรวจที่ทุ่มเทเสียสละในการทำงานเพื่อประชาชนสมบท “ยอดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” เป็นที่ยอมรับแก่สังคมประจำทุกปี
สำหรับ รางวัล COP’S Award 2019 ครั้งนี้ทีมงานนิตยสาร COP’S พิจารณาคัดเลือกยกให้เป็น TOP COP’S ประจำปี 2562 ประกอบด้วย
ชุดปฏิบัติการ “ศรชัย” งานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา รับภารกิจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกเสี้ยววินาทีตลอดหลายปีที่ก้าวเท้าเดินออกจากหน่วยเพื่อไปทำหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ ผลงานครั้งสำคัญ คือ ช่วยคลายวิกฤติ “คาร์บอมบ์” กลางเมืองยะลาให้รอดพ้นจากความเสียหายทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์
พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทุ่มเทเดินหน้าสานต่องานมวลชนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดึงคณะกรรมการตรวจและบริหารงานตำรวจเข้าไปมีส่วนช่วยลงสนามตามชุมชนทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน ชูมอตโต “ทุก(ข์) ชาวบ้าน กต.ตร.ช่วยได้” อาศัยพลังให้คนรุ่นใหม่รับบทอาสาสมัครมาด้วยใจ ห่วงใยสังคม
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 นั่งตำแหน่งหัวหน้าหน่วยคนแรกมุ่งสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานในหลวง อีกทั้งยังแสดงตัวอย่าง “ภาวะผู้นำ” ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็น พาลูกน้องออกฝึกยุทธิวิธีเรียนรู้ตำราหลากหลายเพื่อรองรับ “ภารกิจเหนือชีวิต” สอนหลักคิดและปลูกฝังความเป็นระเบียบวินัย
กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การคุมทัพของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช นายพลหนุ่มมากด้วยขุมกำลังนายตำรวจเลือดแรง แสดงผลงานจับกุมคดีอุกฉกรรจ์ยันคดีเล็กน้อยตามหมายจับที่มีผลกระทบต่อชีวิตทรัพย์สินความเป็นอยู่ของประชาชน เสมือนเป็นที่พึ่งสุดท้าย ตามวิสัยทัศน์ “มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน”
พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นหนึ่งใน 30 นักสืบทายาทนครบาลที่ปลุกปั้นขึ้นเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เก็บเกี่ยวฉากบู๊บุ๋นในคดีดังมานับไม่ถ้วน กระทั่งพลิกเส้นทางเดินสู่การไปเป็นหัวใจหลักของหน่วยปราบปรามยาเสพติด เกาะติดตามรอยเครือข่ายยานรกเก็บเป็นแฟ้มข้อมูลแล้วเดินเครื่องต้อนอย่างจริงจังแบบ “กัดไม่ปล่อย” เหมือนที่เคยซึมซับมาจากตำนานมือปราบชั้นครูรุ่นเก่า
พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นักสืบรุ่นใหม่พิชิตคดีสำคัญมากมายในภาคใต้ที่ใส่ใจความเดือดร้อนของชาวบ้านมากกว่าชะตากรรมมรสุมชีวิตตัวเอง นำประสบการณ์ที่เคยเรียนรู้การทำงานสืบสวนจากนายตำรวจนักสืบรุ่นพี่ไปถ่ายทอดต่อในหน่วย สร้างแรงจูงให้ตำรวจทุกคนทำงานดับทุกข์ประชาชน สุจริตชนต้องอยู่อย่างเป็นสุข โจรผู้ร้ายต้องถูกเก็บกวาด
พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทาบุตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี มากฝีมือมากประสบการณ์ทำงานพื้นที่ภาคกลาง ถึงขนาดโดนเรียกตัวไปช่วยเสริมทัพกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ปั่นโบแดงแสดงผลงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจับกุมยาเสพติดยึดของกลางยาบ้าหลายล้านเม็ด พยายาม “ลดดอกเห็ด” ของเครือข่ายไม่ให้เจริญเติบโตระบาดไปยังกลุ่มเด็กและเยาวชนอนาคตของชาติ
พ.ต.อ.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงไปช่วยดับร้อนในสมรภูมินอกตำราอยู่หลายปี อาศัยประสบการณ์ความสามารถด้านเทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่ไปใช้คลี่คลายคดีความมั่นคงที่ปลายด้ามขวาน และเป็นเครื่องจักรกลคนสำคัญที่ผู้เป็นนายมักเรียกใช้ไขปริศนาล่าคนร้ายอีกหลายคดีระดับประเทศ
พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทำงานปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกแผนปฏิบัติการของหน่วยนำกำลัง “ชุดสยบไพรี” ออกจู่โจมเป็นกองหน้าตรวจค้นและจับกุมทลายขบวนการค้ายาเสพติดทั่วประเทศ สร้างความหวั่นเกรงแก่แก๊งยานรกจนหนีเตลิดซุกปีกประเทศเพื่อนบ้าน
พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล ขยับเก้าอี้ย้ายโต๊ะจากกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ แต่ไม่เคยปฏิเสธเนื้องานด้วยการนำทีมแกะรอยสืบสวนสารพัด “แก๊งอาชญากร” ที่ก่อเหตุอาชญากรรมซ้ำซากอยู่ในกรุง ส่งผลให้ปิดแฟ้มคดีที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แถมลงไปดูแลสวัสดิการสภาพความเป็นอยู่ของลูกน้องเพื่อบำรุงขวัญกำลังใจให้ออกเป็นทำงานไม่ต้องควักเนื้อห่วงหน้าพะวงหลังอีกด้วย
พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ คุมภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เมืองหลวง “หน่วยโชว์ออฟฟอร์ซ” ของรถสายตรวจ 191 เข้าเสริมระงับเหตุด่วนเหตุร้าย เน้นนโยบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีจิตสาธารณะ มุ่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่าสาละวนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
พ.ต.ท.หญิง ชนัญญา วรอนุวัฒนกุล รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 5 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นายตำรวจหญิง “นักประชาสัมพันธ์มืออาชีพ” อยู่หน่วย “นักรบป่า” มายาวนาน ก้มหน้าก้มตามุมานะไม่เคยถอดใจ ช่วยสร้างภาพลักษณ์องค์กรเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมถึงความเสียสละหน้าที่ทำงานด้วยความอยากลำบากเพื่อปกป้องชายขอบประเทศ
พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 8 อีกนักสืบเลือดใหม่ฝักใฝ่ใน งานเทคโนโลยีที่นับมาปรับใช้ในกระบวนการสืบสวนเป็น “อาวุธลับ” ขยายผลเครือข่ายค้าเสพติดจากรายเล็กโยงไปถึงรายใหญ่กระจายสู่โกดังเก็บยานรก สกัดขบวนการยาเสพติดเหล่านี้ไปได้หลายก๊วนจาก “มันสมอง” ประกอบฝีมือนายตำรวจหนุ่มน้อยอนาคตไกลรายนี้ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 8
