ก้าวสู่ปีที่ 5 ของการคุมบังเหียนทัพสีกากี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ “ผู้นำ” ในยุคเปลี่ยนกรมตำรวจมาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดำรงตำแหน่งนานสุด
ส่วนจะสะดุดไม่ถึงวันเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายน 2563 เพราะ “พิษอำนาจการเมือง” เป็นเรื่องของอนาคต
ทบทวนความทรงจำที่เต็มไปด้วยขวากหนามและชะตากรรมของแม่ทัพตำรวจ
นับตั้งแต่พลัดพรากจากอก “รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย” มาอยู่ใน “กำมือนายกรัฐมนตรี” เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2541
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อธิบดีกรมตำรวจคนสุดท้าย ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนแรก จำต้องอำลาเก้าอี้ก่อนเกษียณอายุราชการ หลังโดนบีบให้ไปทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2543 เปิดทางให้ พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจร่วมรุ่น 18 ขึ้นนั่งแทนจนเกษียณอายุราชการในปีถัดมา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 3 ปรากฏชื่อของ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 20 ประคองนาวาได้นาน 2 ปีเศษ เจอคำสั่งเด้งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มี พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รักษาราชการแทนถึงวันที่ 30 กันยายน 2547
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 22 ก้าวขึ้นแม่ทัพคนถัดมา ใช้เวลาอยู่บนเก้าอี้ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่เหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 สุดท้ายต้องพ้นจากตำแหน่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่เดือน
ถึงยุค พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 24 นั่งเก้าอี้ได้เพียง 6 เดือนอำนาจการเมืองเปลี่ยนขั้วส่งให้หลุดตำแหน่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีอีกราย
มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 ขึ้นมารับ “เผือกร้อน” ท่ามกลางการช่วงชิงอำนาจทางการเมืองที่ยังคุกรุ่น เกิดเหตุการณ์วุ่นวายหน้ารัฐสภาลุกลามบานปลาย สุดท้ายเจอคำสั่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
ทันทีที่อำนาจการเมืองเปลี่ยนมือเมื่อปี 2552
แล้วหน้าประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องบันทึกไว้ว่าตลอดระเวลาขวบปี รัฐบาลสมัยนั้นไม่สามารถแต่งตั้งแม่ทัพสีกากี “ตัวจริง” ได้ ปล่อยให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจวบจนถึงวันที่ 2 กันยายน 2553
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 28 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อมา ใช้เวลาอยู่บนเก้าอี้แค่ปีเดียว เจอคำสั่งรัฐบาลโยกเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อหลีกทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ นิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รุ่น 12 พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นแม่ทัพนานเกือบปีก่อนเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2555
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 29 ก้าวขึ้นแท่นแทน เก้าอี้แน่นด้วยแรงสนับสนุนจากขั้วการเมืองเพียงปีเศษ คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้ายึดอำนาจบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จัดแจง “เด็ดหล่นตำแหน่ง” ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นเดียวกันรักษาราชการแทนไปจนถึง 30 กันยายน 2557
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งนั่งตำแหน่ง “พิทักษ์ 1” ประคับประคองเส้นทางชีวิตราชการที่เหลือ 1 ปี รอดคมอำนาจการเมืองไปเกษียณอายุในบทผู้นำได้อีกคน
วันที่ 1 ตุลาคม 2558 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 ขยับข้ามรุ่นเป็น “นายพลหนุ่ม” ขึ้นคุม “อำนาจทัพสีกากี” ที่ใครหลายคนต่างหมายปอง
จากวันนั้นมาถึงปัจจุบันนี้ ย่างเข้าสู่ปีที่ 5 กับการบริหารองค์กรผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
นานสุดในประวัติศาสตร์สำนักปทุมวัน
