รับมือสงครามเชื้อโรค

 

สถานการณ์วายร้ายไวรัสไข้หวัด “สายพันธุ์มรณะโควิด” คร่าชีวิตคนไทยเพิ่มขึ้นทุกวัน

ขณะที่ยอดผู้ป่วยทะยานทะลุหลัก 7 พันคนต่อวัน สร้างตัวเลขสถิติใหม่น่าวิตกกังวลแก่ประชาชนทั่วประเทศ

ฝ่ายตำรวจสัมผัส “ผู้ติดเชื้อ” จากการปฏิบัติหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้รับผลกระทบต้องเข้ามาตรการ “กักตัว” กันหลายโรงพักในระยะหลัง

แม้ต้องเผชิญความเสี่ยงอยู่บนสมรภูมิ “สงครามเชื้อโรค” แต่ตำรวจยังต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงมีวิทยุด่วนที่สุด ที่ 0007.33/1976 ลง 7 กรกฎาคม 2564 สั่งการกำชับทุกหน่วยในสังกัดเพิ่มความเข้มงวด มาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายขอรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องกำชับให้ทุกหน่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดกวดขันและเคร่งครัดในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นในสถานที่ทำงาน หรือบริเวณที่ตั้งหน่วย

โดยเฉพาะสถานีตำรวจ หน่วยบริการประชาชน และหน่วยฝึกอบรม

ไม่ว่าจะในเรื่องการเว้นระยะห่าง การคัดกรองโรค

ตลอดจนการปรับรูปแบบการทำงาน “ผ่านระบบออนไลน์” ในกรณีที่สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม

ทั้งในเรื่องการรับแจ้งความ กรณีที่เป็นการแจ้งเป็นหลักฐาน หรือการแจ้งเอกสารหายที่ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา หรือการบริการด้านต่างๆ และการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ

หากพบการติดเชื้อในหมู่กำลังพลและครอบครัวข้าราชการตำรวจในสังกัดให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขและให้ความช่วยเหลือตามสมควร

รวมถึงพิจารณาดำเนินการตรวจหาเชื้อ “เชิงรุก”

หากหน่วยใดขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและเร่งรัดเสนอเรื่องเพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนต่อไป

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังฝากความห่วงใยข้าราชการตำรวจและครอบครัวทุกคน ขอให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละหน่วยคอยดูแลช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาตามความเหมาะสม

“ขอขอบคุณรวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เสียสละ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ทุกภารกิจในห้วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไป”  

เพื่อจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

 

 

RELATED ARTICLES