พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะออกตรวจเยี่ยมจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในห้วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 จุด คือ จุดตรวจสถานีตำรวจนคบาลพหลโยธิน จุดตรวจสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน มี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 11 ร่วมตรวจเยี่ยมความเรียบร้อย ส่วนพื้นที่จังหวัดนนทบุรีอีก 1 จุด คือ จุดตรวจสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด มี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นำคณะตรวจร่วม
พล.ต.อ.สุวัฒน์บอกว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้มีการสกัดกั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด- 19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทวีความรุนแรงจนเสี่ยงที่จะเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุขในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนใต้ของประเทศ จำเป็นต้องกำชับไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดให้ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดตามความมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ในการควบคุม ระงับ ยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประสานงานผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครอง เพื่อตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจตราห้ามมิให้บุคคลออกนอกเคหสถานในห้วงระหว่างเวลา 21.00 -04.00 น.
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังมอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ ถุงมือ เจลแอลกอฮอล์ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าด่าน พร้อมแสดงข้อห่วงใยกำลังพลที่ต้องปฏิบัติงานในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และเน้นย้ำให้นำเทคโนโลยี หรือแอปพลิเคชันมาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ โปร่งใส ผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาได้ตลอดเวลาการทำงาน รวมไปถึงขอความประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด ขอย้ำว่า เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตามหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กันไป เน้นประชาสัมพันธ์การรับรู้เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ให้ทราบ และดูเหตุผลความจำเป็น แต่หากประชาชนคนใดจงใจฝ่าฝืนก็ต้องจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่มีข้อยกเว้น
