เทศกาลสาดโคลน

 

เข้าใกล้อาณัติสัญญาณสู่ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2564

นาทีตื่นเต้นของ “ชีวิตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” มากมายคอยกระวนกระวายพะวักพะวงห่วงหน้าห่วงหลังกับ “เก้าอี้ตัวเอง”

“ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” วลีเหมาะกับทุกเวลาพิจารณาบัญชีมาถึง

ยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กุมบังเหียนทัพตำรวจ “อำนาจเต็มมือ” แต่อาจถือได้ไม่เต็มปาก

แปลกที่ทำไม “กองทัพทหาร” อยากเข้ามาจัดสรร “กองทัพตำรวจ”

อาจเพราะ “กองทัพตำรวจ” มีอำนาจของกฎหมายอยู่ในมืออย่างนั้นหรือ

กี่ยุค กี่รัฐบาล “อิทธิพลนอกรั้ว” ถึงชอบเข้ามา “มั่วยัดตั๋ว” ขยับมีบทบาท สลับร่าง-ล้างไพ่ ท่ามกลางบรรดาตำรวจ “นักวิ่งเต้น” เข้าเอาอกเอาใจ บ่อเกิดแห่งความเสื่อมของ “สันดานมนุษย์” ในคราบนักการเมือง

เมื่อเดิมพันอัตรา ค่าเก้าอี้ ทำเลทองสูง ย่อมเกิดอาการ “ปัดแข้ง-ปัดขา” กัน

จุดเริ่มต้นของ “เทศกาลสาดโคลน” โยน “วิชามาร” ให้เลอะมลทินใส่เครื่องแบบคู่แข่ง ด้วยวิธียุแยงตะแคง ตลบตะแลง เหมือนเอาชะแลงงัดแผลเก่า “เป่าหู” ผู้กุมอำนาจ

ต้องยอมรับเส้นทางชีวิตของตำรวจแต่ละคนกว่าจะก้าวมาถึงจุดยืนที่เริ่มรู้สึกว่า “หนาว” ย่อมมีทั้งดีและเสีย

คนที่ไม่ได้มีตำหนิ คือ คนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

หลายคนเดินดินคลุกฝุ่นตามไล่จับโจร ยิงคนร้ายเจ็บตาย และเสี่ยงเอาตัวเองแลกกระสุน เป็น “ต้นทุน” ให้เจริญก้าวหน้ามาจาก “เนื้องาน” มากกว่า “เนื้อเงิน” เต็มไปด้วยวิญญาณของ “นักล่า”ที่หิวกระหายผู้กระทำความผิด

ไม่ได้หิวกระหายกองผลประโยชน์ “นอกระบบ”

เป็น มือปราบ ไม่ใช่ มือแปแบไถตังค์

ขณะที่ “บางพวก” เติบโตมาจากการ “วิ่งเต้น” ใช้ “เส้นสาย” เลียแข้งเลียขา “ผู้เป็นนาย” กระทั่งได้ดิบได้ดี แทบไม่ได้เสียเหงื่อแลกเก้าอี้ แค่ “เสียน้ำลาย” สอพลอ ต่ออายุตัวเอง

หนักสุดคือ “กลุ่มหว่านเงิน” เดินประเคน “ผู้มีอำนาจนอกรั้ว” แลกซื้อ “ตั๋ว” ขึ้นขบวนรถทัวร์พาไปสู่ฝั่งฝัน

เหล่านี้คือ ต้นสายและปลายเหตุของ “วิถีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ไม่อาจหลุดพ้นวังวนที่หมักหมมอยู่ใน “ทุ่งปทุมวัน” นานหลายสิบปี

คนทำงานถึงถูก “กดดักดาน” ไม่อาจต้านขบวนการ “สาดโคลน” โยน “วิชามาร” สกัดกั้นเส้นทางที่ควรจะเป็น

“ลุงตู่” จะรู้หรือเปล่า

ปัจจุบันแม้ “มารขาว” ไม่มา

แต่ “มารดำ” ยังกุมชะตากรรมใครหลายคน

ข่าวว่า กระแสการเงินเริ่มเดินสะพัด

แถมพัดเอา “ขี้โคลน” ติดเลอะคู่แข่งไปพร้อมกัน

RELATED ARTICLES