ขนคนข้ามแดน

 

รอยรั่วของรั้วตะเข็บชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ปัญหาเกิดจากอิทธิพลที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์มากมายมหาศาล

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึง 31 กรกฎาคม 2564 จากเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงร่วมปฏิบัติภารกิจกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบ้านห้วยหินฝน ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ตรวจสอบพบคนไทยที่ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 504 ราย ส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกักตัวโรงแรมภูอินน์ ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก สถานที่กักกันของรัฐ (Local Quarantine)

ก่อนได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด สั่งให้ขยายผลทันทีที่พบมีการจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้ “ผู้นำพา”ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจากการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ของผู้ถูกจับกุมที่มีหลักฐานการสนทนาทางไลน์ และสลิปการโอนเงินให้ “กลุ่มผู้นำพา” ประกอบการสอบปากคำ

แถมตรวจพบคนไทยส่วนที่ลักลอบหลบหนีเข้ามาส่วนหนึ่งติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

หากหลุดพ้นการตรวจพบและจับกุมจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติมากมาย เมื่อจะเป็น “พาหะนำเชื้อ” ไปแพร่ระบาดกระจายพื้นที่ตอนในเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ผู้กำกับการตำรวจภูธรแม่สอด สืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ยึดตามแนวนโยบายของรัฐบาล รวมทั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ที่ต้องเข้มงวดตามแนวชายแดนไม่ให้มีการลักลอบเดินทางผ่านเข้ามา

การตามรอยสืบสวนสอบสวนพบ หัวหน้าขบวนใหญ่ คนสำคัญอ้างตัวเป็น “เสธ.ทหาร” ประสานงานความมั่นคงรั้วชายแดน รู้จักคุ้นเคยไปมาพาสู่นายทหารระดับสูง และยังพบปะกับ ผู้นำชนกลุ่มน้อย ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ

แต่แท้ที่จริงเป็น “อดีตนักเรียนเตรียมทหาร” ไม่ผ่านหลักสูตรโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ตั้งแก๊งหากินอยู่กับการลักลอบพาคนไทย คนจีน และแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา เข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นขบวนการใหญ่ต้องจ่าย “ค่านำพา” ครั้งละประมาณ 6,000 ถึง 12,000 บาท ในส่วนของคนไทยที่ต้องการเดินทางไปกลับห้วงภาวะวิกฤติวายร้ายไวรัสโควิด

เนื่องจากยังมีการลักลอบข้ามไปเที่ยวและทำงานในสถานบันเทิง บ่อนกาสิโนฝั่งตรงข้ามชายแดนอำเภอแม่สอดอยู่ก่อนประเทศเพื่อนบ้านจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน

มีทหารของชนกลุ่มน้อยร่วมขบวนการในธุรกิจเครือข่ายลักลอบขนคน

พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม เรียบเรียงข้อมูลจัดทำเป็นผังโยงใยผู้เกี่ยวข้องในการขนคนข้ามแดนอย่างละเอียดที่มี “เสธ.ทหารตัวปลอม” อยู่เบื้องหลัง

ไม่นาน มีข้าราชการบำนาญเป็นอดีตตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากเดินทางเข้าพบ แจ้งข้อมูลว่า “เสธ.ทหารตัวปลอม” โทรศัพท์ผ่านทางไลน์มาหาวางท่าข่มขู่ให้เป็น “สะพานส่งสาร” แจ้งไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด

ให้หยุดการสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

แต่อดีตตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่สอดต่อว่ากลับไป ปฏิเสธให้ความร่วมมือ เพราะเห็นเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์โรคระบาด

แนวความคิดเดียวกับ พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ที่คำรามเสียงดังไม่ขอเอี่ยวผลประโยชน์จากการขนคนข้ามชาติ และประกาศนโยบายอย่างเข้มงวดเพื่อ “อุดรอยรั่ว” ในพื้นที่รับผิดชอบ

หลังจากนั้นได้มีการนำรูปภาพของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด และภาพของข้าราชการบำนาญอดีตตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ไปประกอบข้อความที่บิดเบือนข้อเท็จจริงมาเผยแพร่ในสื่อออนไลน์

ขบวนการลักลอบขนคนข้ามแดนยังปั่นกระแส “โลกโซเชียล” ต่อเนื่อง พุ่งเป้าหลักไปที่ พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม กล่าวหาอยู่เบื้องหลังกอบโกยผลประโยชน์จากการขนของเถื่อน คนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองจนล้นทะลักแม่สอด เป็นปฐมเหตุของการแพร่ระบาด “เชื้อโควิด” ครั้งใหญ่

บิดเบือนเอารูปภาพแรงงานต่างด้าวเถื่อนจากสื่อในพื้นที่จังหวัดอื่นมาประกอบเรื่องให้เข้าใจผิดว่าเป็นเหตุเกิดชายแดนแม่สอด

เพื่อลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงเสนอผู้บังคับบัญชา และพยายามแก้ข่าวกับกลุ่มมวลชนในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของหน่วยงาน

เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกลุ่มอิทธิพลขบวนการขนคนข้ามแดนตะเข็บเมืองแม่สอด

กระทั่งเจอมรสุม “เด้งฟ้าผ่า” ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

RELATED ARTICLES