เรื่องตลกไม่ออก

 

แก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบเรียก “ดอกเบี้ยโหด” แถมมีขบวนการข่มขู่ทวงหนี้สารพัดวิธีอาละวาดไปทั่ว

อาศัยสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องยอมรับกันว่า สภาพเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่จากผลพวงของวายร้ายไวรัสไข้หวัดโควิดระบาดหนักตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา แถมราคาน้ำมันพุ่งพรวด เนื้อหมูแพง สินค้าเกือบทุกอย่างขึ้นราคาส่งผลกระทบต่อพ่อค้า แม้ขาย สุจริตชนหาเช้ากินค่ำ

เงินขาดมือ ชักหน้าไปไม่ถึงหลัง เงินลงทุนไม่เพียงพอ

ลงเอยด้วยการหากู้หนี้ ยืมสิน เพื่อหาทางรอดประคองปากท้อง ยาไส้ครอบครัว ส่งให้เกิดธุรกิจของ “นายทุนเงินกู้รายวัน” ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมาพร้อมกับ “ดอกเบี้ยโหด

ชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะได้เงินกู้แค่ประมาณ 3,000 บาท แต่หักดอกก่อนวันแรก 200 บาท ได้เงินต้น 2,800 บาท ต้องส่งภาย 24 วัน รวมเป็นเงิน 4,800 บาท

นายทุนเจ้าของเงินได้ไปเหนาะ ๆ 2,000 บาท

ถ้า “ลูกหนี้” ขายสินค้าหรือลงทุนหารายได้ในแต่ละวันไม่ขัดสน ปัญหาก็จบไป

หากวันใดเจ็บป่วย หรือขายของไม่ดี ส่งหนี้ไม่ได้ ปัญหาการ “ข่มขู่ทวงหนี้” จะตามมา วิธีการแบบไหนแล้วแต่กระบวนการของนายทุนแต่ละรายจะเลือกส่งสมุนไปพูดแบบนุ่มนวล หรือจะชวนข่มขวัญขู่ใช้ความรุนแรงให้เกิดความหวาดกลัว ประจานให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เรื่องราวจะปรากฏทางสื่อตามคำบอกเล่ากันให้เห็นบ่อยครั้ง

กระทั่งถึงมือกฎหมายบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาไกล่เกลี่ยเคลียร์ปัญหา จบบ้าง ไม่จบบ้างแล้วแต่สถานการณ์ เพราะเบื้องหลังนายทุนเจ้าของเงินมักได้ “ผู้มีอำนาจหนุนหลัง” แทบทั้งนั้น

เส้นใหญ่บ้าง เล็กบ้าง คละเคล้ากันไป

กระนั้นก็ตามแก๊งปล่อยเงินกู้รายวันยังคงเป็น “ขวัญใจคนจน” ที่นิยมพึ่งพายามขัดสน วาดหวังเอาเงินไปใช้ “ต่อลมหายใจชีวิต” ไม่คิดว่าจะกลายเป็น “หนี้บานปลาย” สู่ “หายนะ” ลุกลามถึงครอบครัว

ตำรวจน้อยใหญ่ต้องรับนโยบายจากผู้บังคับบัญชาออกทำงานกวาดล้างกันอย่างหนัก ระดมกำลังเหนื่อยงานในแต่ละวัน

บางคนกลับต้องมาเผชิญสถานการณ์ที่ “ตลกไม่ออก”  อาทิ ตลาดช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีชั้นผู้น้อยหลายครอบครัวที่ลูกเมียขายของไม่ได้ เนื่องจากตลาดชายแดนปิด หาเงินมาใช้จ่ายไม่เพียงพอ ตอกย้ำคำว่า “ชักหน้าไม่ถึงหลัง”

เงินกู้รายวันเลยเข้ามาช่วยเติมต้นทุนค้าขาย สุดท้าย “ตกเป็นหนี้” ต้องหามาจ่ายดอกเบี้ยและต้นทุนรายวัน เมื่อขายของไม่ได้อยู่ดี

ตำรวจชั้นผู้น้อยทำหน้าที่ หัวหน้าครอบครัว แทบปวดใจ

ต้องรับสภาพจ่ายหนี้รายวันแทนลูกเมีย

ทั้งที่รู้เต็มอกว่า เครือข่ายเงินกู้รายวันมีความผิด แต่ยังจับไม่ได้ แล้วจะไปกวาดล้างขบวนการ ปล่อยกู้นอกระบบ ได้อย่างไร

นี่แหละตัวอย่างของเรื่องตลกไม่ออก