เหรียญมีสองด้านเสมอ

 

ร้องเรียนกันมานานหลายยกแล้วเกี่ยวกับพฤติกรรม “แก๊งเช็ดกระจก” ก่อความเดือดร้อนรำคาญอยู่บริเวณแยกรัชดาลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ปัญหาหมักหมมสะสมกว่าสิบปี แทบไม่มีหน่วยงานใดแก้ได้อย่างเด็ดขาด

ไล่กวดจับปรับดำเนินคดีไม่กี่ทีก็โผล่ออกมาเหมือนเดิม ยิ่งปัจจุบันแยกดังกล่าวเกิดปัญหาการจราจรติดขัดนาน เพราะอยู่ระหว่างก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้ “แก๊งเช็ดกระจก” เหล่านี้ลำพองทำตามอำเภอใจเดินกันเต็มท้องถนน

ผู้ใช้รถใช้ถนนเห็นแล้วหน่าย บางราย ตัดความรำคาญ ควักเศษเงินให้ดีกว่าปล่อยให้เอาไม้ปาดกระจกเลอะคราบสกปรกขึ้นไปอีกเท่าตัว

ล่าสุดปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ระบุเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 18.00-20.00 น.ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เป็น ภาพเด็กผู้หญิงอายุน้อย เช็ดกระจกและขอเงินผู้ที่ขับรถผ่านบริเวณแยกดังกล่าวกลายเป็นกระแสให้ “ชาวเน็ต” เรียกร้องเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ปกครองมาดำเนินคดี

ทำไปทำมาตำรวจทำท่า “ใจอ่อน” เมื่อตรวจสอบข้อมูลทราบเด็กหญิงคนนั้นอายุเพียง 7 ปี ติดตามผู้เป็นแม่มาเดินเสี่ยงอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนเพื่อเช็ดกระจกขอเงิน

สืบสวนจนทราบที่อยู่ของครอบครัวเด็ก

พ.ต.ท.เกริก  แก้วแสนตอ สารวัตรจราจร สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ประสานงานเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปยังบ้านของครอบครัวเด็กเพื่อที่จะร่วมกันหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

พวกเขาพบว่า ครอบครัวนี้ แม่มีอาชีพขายพวงมาลัย มีลูกด้วยกัน 5 คน คนโตอายุ 15 ปี คนเล็กอายุ 3 ขวบ บิดาของเด็กตายไป 2 ปีแล้ว และมียายที่ต้องเลี้ยงดูอีกคน ฐานะยากจนขาดแคลนรายได้ จนต้องพาลูกมาตระเวนขอเงินจากผู้มีจิตใจเมตตา

เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมสุดโคตร

เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจกับครอบครัวและขอความร่วมมือให้หยุดพฤติกรรมการพาเด็กลงถนนเพื่อเช็ดกระจกขอเงินจากผู้ขับขี่รถ

กำชับให้เห็นว่า พฤติกรรมที่ทำอยู่นั้นไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมและอาจเกิดอันตรายกับเด็กได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วน ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีช่วยเหลือ และจะจัดหาสวัสดิการของรัฐที่มีมาให้กับครอบครัวเด็ก

หาทางสร้างอาชีพอันไม่ขัดต่อการยอมรับของสังคมให้กับครอบครัวดังกล่าว

เบื้องต้น พ.ต.ท.เกริก แก้วแสนตอ สารวัตรจราจร สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน นำสิ่งของข้าวสาร อาหารแห้ง มามอบให้กับครอบครัวเด็กเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

พร้อมชี้แจงด้วยว่า  ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะไม่สามารถจบได้ภายในวันเดียว หรือสองวัน  อีกทั้งมักพบกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมากระทำผิดเป็นระยะ ๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หมุนเวียนกันมา

ตลอดห้วงเวลา 4 เดือนย้อนหลังจับกุมดำเนินคดีไปทั้งสิ้น 11 ราย ผู้ที่ถูกจับกุมมักไม่กลับมากระทำพฤติกรรมซ้ำเดิมอีก

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันและดำเนินการตามวิธีที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่ตรวจสอบพบต่อไป

“เหรียญมีสองด้านเสมอ  บางเรื่องการดำเนินคดีก็ไม่ใช่ทางออก” ฝ่ายผู้รักษากฎหมายว่า

แต่ปัญหาจะจบหรือไม่ต้องติดตาม

 

RELATED ARTICLES