จดหมายของพ่อ

 

มรดกชิ้นสำคัญเป็นอนุสรณ์ความทรงจำที่ พล.ต.ท.ชัยสิทธิ์ กาญจนกิจ อดีตแม่ทัพนครบาล เจ้าของฉายา “หน้ากากเสือ” ทิ้งไว้ให้กับทายาททั้งสอง

เป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือกลั่นความรู้สึกระบายออกมาเป็นตัวอักษรจากหัวใจฝากถึง พ.อ.กิตติเดช  กาญจน​กิจ​ ข้าราชการบำนาญ และ พ.ต.อ.ชิตพล กาญจนกิจ อาจารย์ ​สบ 5 กลุ่มงานอาจารย์ กองบัญชาการศึกษา

 “พ่อมอบให้ลูก” หวังเตือนสติในการดำเนินชีวิต

ชีวิตคนนั้นมีอายุน้อยนัก เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว เวลากลืนกินสรรพสิ่งทั้งหลายและกลืนกินตัวมันเอง ชีวิตล่องเลยไปด้วยกาลเวลา

“พ่อทราบดีว่า วันหนึ่งในไม่ช้าพ่อต้องจากลูกทั้งสองไป” เจ้าตัวบันทึกล่วงหน้าไว้เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2538

ชีวิตอันดีงามของลูกทั้งสองเป็นความหวัง เป็นความภาคภูมิใจยิ่งของพ่อ ลูกเป็นชีวิตของพ่อจึงขอให้ลูกพึงระลึกอยู่เสมอด้วยความไม่ประมาทว่า ลูกกำลังทำอะไรอยู่และจะทำอะไรต่อไป

ชีวิตของลูกต้องก้าวไปข้างหน้าจะต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคอีกมากมายดังที่พ่อได้ต่อสู้มาแล้วชีวิต

“ขอลูกอย่าได้กลัวปัญหา เพราะปัญหานั่นแหละคือทางของความสำเร็จ และลูกจะเป็นคนมีคุณค่าที่สุด ถ้าสู้ปัญหาสำเร็จ”

ลูกจงต่อสู้มันด้วยความรู้ความสามารถที่ได้สั่งสมมาด้วยความเฉลียวฉลาด ด้วยความอดทนและอย่างมีคุณธรรม

“พ่อไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร เพราะรับใช้ชาติบ้านเมืองมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มั่นคงในความถูกต้องอย่างมีคุณธรรม เพื่อหวังให้ลูกอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิ มีหน้ามีตามีเกียรติยศ จึงไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไรเหลือไว้ให้เหมือนคนอื่นเขา” 

แต่สิ่งที่พ่อมอบไว้ให้ลูกทั้งสองแล้วนั้นน่าจะมีค่าเหนือกว่า เพราะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเหลือลูกได้ตลอดไป

“สิ่งนั้นคือ วิชา ความรู้ อันเป็นยอดมิตรแท้ของลูก พ่อได้สั่งสมให้ลูกเป็นผู้มีคุณธรรมตลอดเวลา ความรู้ต้องคู่คุณธรรม”

พ่อทราบดีว่า ลูกทั้งสองได้รับมอบไว้อย่างดีแล้ว เชื่อว่า ชีวิตของลูกทั้งสองจะรุ่งเรืองดีกว่าพ่อ ลูกจะต้องไปคนที่มีคุณภาพ มีคุณธรรมที่ใคร ๆ ก็ต้องการ จึงขอให้ลูกพึงสังวรณ์ระมัดระวังรักษาเอาไว้ให้จงดี และควรให้มีเพิ่มพูนก้าวหน้าขึ้นไปอีก

 “สิ่งที่ลูกพึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษก็คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สามสิ่งนี้จะต้องได้มาโดยชอบธรรม”

จงอย่าละโมบ โลภมากจนเกิดเหตุ ผู้คนจะนินทาให้ร้ายภายหลังได้ และแทนที่จะเป็นคุณกับตัวเองอาจจะกลายเป็นโทษไปดังงที่หลายๆ คนได้พบกับ ความวิบัติหายนะ มามากแล้ว

ทุกสิ่งในโลกล้วงมีเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา

ไม่มีอะไรในโลกจะคงอยู่ถาวรได้ตลอดไป

RELATED ARTICLES