ติมากกว่าชมก็ไม่ต้องน้อยใจ

ในพิธีประดับยศและพระราชทานสัญญาบัตรยศแก่นายตำรวจชั้นนายพล ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2539

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสว่า

ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้ทำพิธีประดับยศแก่นายตำรวจชั้นนายพลในครั้งนี้และขอแสดงความยินดีกับท่านที่ได้รับยศสูงขึ้น

นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้นมีหน้าที่ที่สำคัญมาก เพราะเป็นผู้ได้เป็นผู้นำคณะตำรวจ กำลังตำรวจที่ทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์ ตำรวจโดยทั่วไปเป็นกองกำลังที่ใช้ทุกอย่าง มีทั้งอาวุธ มีทั้งกฎหมายอยู่ในมือ ซึ่งจะต้องปฏิบัติเพื่อช่วยให้ส่วนรวมอยู่เย็นเป็นสุข หน้าที่นี้จึงเป็นงานที่ลำบาก เพราะมีคนเพ่งเล็งมาก ถ้าทำได้ดีก็เป็นที่พึ่งของประชาชน

การปฏิบัติหน้าที่นั้น โดยเป็นหน้าที่ที่ลำบากก็ย่อมมีความผิดพลาดบ้าง เมื่อดีคนเขาก็ควรชื่นชม แต่คนทั่วไปก็โดยมากชอบที่จะติมากกว่าชมก็ไม่ต้องน้อยใจ อาจรับการตำหนิติเตียนบ้าง แต่สำคัญอยู่ที่ ถ้าท่านทำด้วยความตั้งอกตั้งใจด้วยความเข้มแข็ง ด้วยความเสียสละก็จะเห็นผลในที่สุด

คือตำรวจมีหน้าที่หลายอย่างซึ่งเท่ากับเป็นผู้ที่อุ้มชูประเทศชาติให้อยู่ได้ จึงเป็นหน้าที่ที่กว้างขวาง ฉะนั้นก็ต้องพยายามที่จะปฏิบัติงานให้เข้มแข็ง และต้องมีอย่างที่เขาเรียกว่า ความเสียสละ ความเสียสละนี้เป็นสิ่งที่ลำบากที่ยากเย็นที่จะปฏิบัติได้ เพราะว่ามีอุปสรรคขวางทางอยู่ แต่ถ้าผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้ ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งซื่อตรงก็จะทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยและเป็นผลของแต่ละคนที่ได้ปฏิบัติด้วยความตั้งอกตั้งใจ

ฉะนั้นก็ขอให้ทุก ๆ ท่านพยายามที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ โดยเต็มกำลังกาย กำลังใจ เพื่อที่จะให้ได้ผลในทางหน้าที่ของตำรวจ ถ้าทำได้ ทุก ๆ คนก็ย่อมรู้ในตัวเองว่า ได้ทำดี ได้ทำงานที่ผลดี ไม่ต้องคอยให้ใครมาติชม แต่ละคนจะรู้ดีว่า ตัวได้ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้วจะเป็นความภูมิใจของแต่ละคน และในที่สุดรวมแล้วก็เป็นความพอใจและความภูมิใจของเหล่าตำรวจ คือ กรมตำรวจทั้งหมดเป็นส่วนรวม

ก็ขอให้ทุก ๆ ท่านอย่าท้อใจ มีกำลังทั้งกายทั้งใจเข้มแข็งสมบูรณ์ครบถ้วนเพื่อที่ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่ของตน ก็ขอทุกคนได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองความสำเร็จทุกประการ