การตรวจงานของจเรตำรวจในวิธีคิดของนายตำรวจท่านหนึ่ง
เขามอง 2 เรื่องสำคัญ
ประการแรกตรวจหารูปธรรมของการนำนโยบายมาปฏิบัติและค้นหาปัญหาของหน่วยปฏบัติ อีกประการหนึ่ง คือ สื่อสารทำความเข้าใจกับหน่วยปฏิบัติในเรื่องนโยบายต่าง ๆ ที่สำคัญ
เน้นหนักที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ หรือแม้กระทั่งเครดิตความน่าเชื่อถือ ความยอมรับ ให้กับหน่วยปฏิบัติ
เจ้าตัวเล่าการตรวจราชการในช่วงที่ผ่านมากว่า 20 จังหวัดว่า ได้ไปตรวจ ได้ไปถ่ายทอด ได้ไปชี้แนะ ได้ไปสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติที่สำคัญให้ได้รับทราบแนวทางดังนี้
1.การตรวจราชการต้องใส่วิธีคิดไปว่า เป็นการมาตรวจเพื่อค้นหารูปธรรมของ การนำนโยบายไปปฏิบัติ
2.การตรวจต้องค้นหาปัญหาสำคัญของหน่วยปฏิบัติและแนะนำแก้ไข
3.การตรวจต้องไม่สร้างภาระให้กับหน่วยปฏิบัติ
4.การตรวจต้องทำใหห้น่วยปฏิบัติมีความเข้าใจและและทำงานง่ายขึ้น
ย้ำบางเรื่องที่สำคัญและเป็นนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความพึงพอใจของประชาชนเป็นสำคัญ ตรงนี้จะให้น้ำหนักกับการตรวจงานธุรการ งานเอกสาร หรืองานที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
“ทุกครั้งที่ผมไปตรวจราชการ ผมจะนำนโยบายที่สำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติไปพูด ไปถ่ายทอด ไปชี้ไปสร้างความเข้าใจให้เห็นว่าต้องคิดอย่างไร ต้องเข้าใจอย่างไร” เขาว่า
ต้องทำอย่างไรใน 3 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาความประพฤติและพฤติกรรมของตำรวจที่ส่งผลกระทบต่อภาพลกัษณ์และความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน การจัดการปัญหาบัตรสนเท่ห์ ร้องเรียน ร้องทุกข์ และความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และการยกระดับการบรกิารประชาชนของสถานีตำรวจเพื่อให้ตรงใจและสร้างความพึงพอใจกับประชาชนมากที่สุด
ชี้ให้เห็นถึงการแก้ปัญหาแบบเดิมที่ยังไม่ลึกซึ้งและคลุมปัญหาเหล่านี้ได้ เช่น ปัญหาความประพฤติและละพฤติกรรมตำรวจ ลำพังแค่สั่งมาแล้วก็สั่งไปเป็นทอด ๆ อยู่แบบตัวใครตัวมัน ไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่น หรือคิดเพียงว่า โต ๆ กันแล้วรับผิดชอบกันเอง
แค่นี้ไม่พอ
ต้องชี้ให้เห็นว่า ผู้บังคับบัญชาหน่วย ผู้นำ หัวหน้างานในแต่ละระดับต้องลงไปค้นหา “ด้านมืด” ของลูกน้องอย่างจริงจังทุกราย
ค้นหาเพื่อแก้ไขช่วยเหลือ ไม่ใช่เพื่อเอามาประจาน หรือทำลาย
เพราะสุดท้ายหากไม่ทำแบบนี้ความเสียหายก็เกิดกับลูกน้อง กับหน่วยงาน กับองค์กร กับองค์กรตำรวจอย่างที่เราพบเห็นข่าวอยู่ตลอดเวลา
