รับมอบเก้าอี้อำนาจคุมทัพเมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 ส่งธงประจำหน่วยให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนใหม่ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่ที่ห่างกันถึง 10 รุ่น
ผู้นำนครบาลคนใหม่จัดแจงเรียกประชุมแบบมอบหน้าที่ให้รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลช่วยขับเคลื่อนหน่วยทันที
ยังคงไว้วางใจให้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เป็นหัวหน้าคุมงานจราจร ควบกับทำหน้าที่โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลตามเดิม มี พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 อีกคนดูงานจเรตำรวจ เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 คุมงานป้องกันปราบปราม 1
พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 อาวุโสสุดเป็นหัวหน้างานกิจการพิเศษ 2 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 เป็นหัวหน้างานป้องกันปราบปราม 2 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 48 เป็นหัวหน้างานบริหาร 2 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 44 เปลี่ยนมาคุมงานปราบปรามยาเสพติด สลับหน้างานสืบสวนให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 46 ทำหน้าที่แทน
พล.ต.ต.สยาม บุญสม นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 46 เป็นหัวหน้างานกิจการพิเศษ 1 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 48 ยังคงเป็นหัวหน้างานความมั่นคง ขณะที่ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 45 ทำหน้าที่ถนัดเป็นหัวหน้างานกฎหมายและคดี และพล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 เป็นหัวหน้างานบริหาร 1
หลังจากนั้นได้เรียกผู้บังคับการถึงผู้กำกับการในสังกัดนครบาลประชุมมอบนโยบายการบริหารงานราชการนานกว่า 2 ชั่วโมง
เน้นด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรม ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุรวดเร็ว เพื่อรักษาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุที่จะสามารถติดตามจับคนร้ายได้ อีกทั้งจะไม่ได้ก่อเหตุซ้ำซ้อน
หัวหน้าสถานีต้องออกไปตรวจที่เกิดเหตุโดยเฉพาะดดีเด็ก คดีทางเพศ
งานกฎหมายและคดี ถ้าโรงพักไหนพนักงานสอบสวนไม่รับคดี จนผู้บังคับบัญชาต้องโทรศัพท์ไปฝาก พล.ต.ท.ธิติคาดโทษไว้ว่า ผู้กำกับการต้องรับผิดชอบ
พนักงานสอบสวนต้องเรียกมาคุย ไม่ใช่เรียกมาเคลียร์
เพราะงานสอบสวน คือ “กระดูกสันหลัง” ทำให้สามารถลงโทษเอาผิดผู้กระทำผิดกฎหมายได้
ส่วนงานจราจรให้เน้นไปที่การบริการ เช่น บริเวณหน้าโรงเรียน โรงพยาบาล ศาล สถานที่สำคัญ การจับกุมควรมีพูดคุยกันต้องไม่เป็นคู่กรณี และต้องไม่มีเรื่องร้องเรียน
“เหตุฉุกเฉิน คดีอุกฉกรรจ์เร่งด่วนต้องรีบรายงานเหตุ มีเหตุผู้กำกับการต้องอยู่ในพื้นที่ ต้องการบริหารความเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงและระมัดระวัง” พล.ต.ท.ธิติว่า
แม่ทัพนครบาลยังบอกด้วยว่า ย้ำนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพูดคุยทำความเข้าใจกับหัวหน้าสถานีให้ตำรวจลงพื้นที่มากขึ้นตั้งแต่ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลงไปกำกับการทำงานภาคประชาชน รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชา
ว่าถึงเส้นทางของแม่ทัพนครบาลคนใหม่
เคยเป็นผู้กำกับการทางหลวง 1 – 2 ผู้กำกับการ 1 กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
เป็นนายพลปี 2556 นั่งผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค โยกเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา
ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขยับเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเพียงปีเดียวแล้วกลับไปเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
เลื่อนเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่ประสานงานรัฐสภา)
กระทั่งสถานการณ์ไข้หวัดไวรัสโควิดระบาดลามเข้าบ่อนพนันของ “หลงจู๊” ผู้กว้างขวางเมืองระยอง มีให้ นายพลภาคตะวันออก เด้งระนาว
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ถูก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ส่งไปรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อเก็บกวาดปัญหาร้อนชายฝั่งอ่าวไทย
ผลงานเข้าตาจนได้นั่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ตัวจริง
ก่อนพลิกโผเหาะมาผงาดเป็นแม่ทัพนครบาล
