เก็บตกควันหลงเรื่องราวของ “หมอสอง” นพ.นพรัตน์ รัตนวราห ศัลยแพทย์และเจ้าของเพจ “หมอสองท่องโลก” ถูกเปิดขึ้นมาเป็นที่น่าสนใจ
เนื่องจากเจ้าตัวเป็นศัลยแพทย์คนดัง เป็นเจ้าของเพจที่มีคนติดตามเกือบสี่หมื่นคน แต่ที่ตื่นเต้นเร้าใจสุด คือ พลอตเหมือนหนังดังฮอลลีวูดที่ “พระเอก” โดนจับไปเรียกค่าไถ่แล้วหนีรอดมาได้
ทำเอา “เกรียนคีย์บอร์ด” หลายคนออกมาเหน็บว่า “หมอสร้างกระแส” ทำคอนเทนต์หรือเปล่า หรือเป็น “หมอหิวแสง”กันแน่
รายละเอียดคงไม่ต้องพูดถึง เพราะมีสื่อหลักหลายสำนักละเลงแต่งแต้มไปหลายแง่มุมแล้ว
วันนี้จะเล่าอีกมุมหนึ่งที่ยังไม่มีใครเขียนถึง
หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมเรื่องนี้ไม่มีใครพูดถึงรายละเอียดการช่วยเหลือ การโอนเงิน หรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ “เรียกน้ำย่อย” สร้างสีสันเลย
หมอสองอาจจะเป็นคนไทยคนแรกที่โดนจับเรียกค่าไถ่
แต่ไม่ใช่คนแรกและคนเดียวที่อุ้มไปเจรจาต่อรอง เพราะมีนักท่องเที่ยวนับร้อยคนจากหลายเชื้อชาติตกเป็น “เหยื่อ” มาไม่น้อย
สถานการณ์ความตึงเครียดของกลุ่มติดอาวุธมีหลายกลุ่มกระจัดกระจายตามรอยต่อประเทศมาลี กับบูร์กินาฟาโซ คือ ผลพวงจากที่มีสงครามและถูกฝึกเป็นนักรบรับจ้างไปยังหลายๆประเทศ เมื่อหมดภารกิจกลับมาในบ้านตัวเอง พร้อมอาวุธและยุทธวิถีที่ฝึกฝนมาแล้ว
ปรากฏว่า ตกงาน ไม่มีรายได้
ถึงเกิดแนวคิดหาเหยื่อจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติของทวีปแอฟริกา
เมื่อจับตัวมาแล้วจะนำมาใส่หลุมดินที่ขุดไว้ หลุมละ 1 คน หรือ 2 คน บางคนอยู่ในกรง หลังจากนั้นคนร้ายก็จะรีดข้อมูลการติดต่อครอบครัวจากเหยื่อจากมือถือที่ยึดไว้
ทักครอบครัวเหยื่อมาช่องทาง Whatsapp (แอปพลิเคชันที่คนไทยเคยฮิตอยู่พักใหญ่ๆเมื่อ 10 ปีก่อน)
ถามว่าที่คนร้ายใช้ช่องแอปพลิเคชันนี้ เพราะด้อยเทคโนโลยีอย่างนั้นหรือ
ตอบว่าไม่ใช่เลย แต่เพราะ Whatsapp เป็นช่องทางที่ตรวจสอบ “ต้นตอ” ยาก ไม่มีไอพี แอคเคาต์ให้เช็กต่างหาก
หน่วยงานความมั่นคงทุกประเทศเจอเข้าไปมึนตึบทุกราย
หลังจากเจรจาต่อรองแล้ว คนร้ายจะแจ้งตัวเลข และช่องทางโอนเงิน
เคสของ “หมอสอง” ค่าตัวคือ 100 ล้านแอฟริกากลางฟรังก์ หรือประมาณ 5.7 ล้านบาท
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติของตำรวจไทยเล่าย่อ ๆแบบ “ออฟเรคคอร์ด” ว่า เรื่องแบบนี้ยิ่งเงียบยิ่งดีกับทุกฝ่าย เพราะขั้นตอนการประสานงานบางอย่างหมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย
เช่นการโอนเงินตราออกนอกประเทศ และถ้ามีคนมองแบบร้ายๆ อาจจะโดนข้อหา “สนับสนุนการก่อการร้าย” ด้วยซ้ำ
เชื่อไหมว่าเคส “หมอสอง” เป็นเรื่องที่หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยข่าวกรองหลายประเทศสนใจเพราะประชากรของแต่ละประเทศ ถูกขังอยู่เป็นปี
ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว
ถามว่าทำไมไม่ร้องขอให้ “ฝรั่งเศส” ช่วย
บอกเลยว่า “อย่าเชียวนะ” เพราะประเทศกลุ่มนี้เคยอยู่ในการควบคุมของฝรั่งเศสและเกลียดฝรั่งเศสมากที่สุด อาจจะทำให้เหยื่อกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ได้เลย
เรื่อง “หมอสอง”จะเหมือนหนังฮอลลีวูดตรงการวางแผนการช่วยเหลือ
การดำเนินการเกือบทุกอย่างต้องยกความดีให้แฟนสาวและครอบครัวของ “หมอสอง”
ส่วนตำรวจไทยก็เหมือนในหนังไทยสมัยโบราณ คือมาตอนจบหลังจาก “หมอสอง” ถูกปล่อย แล้วไม่มีเอกสารการเดินทาง
ทางการไทยและตำรวจช่วยพากลับประเทศแค่นั้นจริง ๆ