“ทำไมใจคอโหดเหี้ยมกันนัก ยิงผัวแล้วยังตามมาฆ่าลูกฆ่าเมียอีก”
เสียงสะท้อนจากชาวไทยมุสลิมในผืนแผ่นดินปลายด้ามขวานกล่าวหา เจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมอำมหิต นางบิสมี สุหลง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 บ้านบูเก๊ะกือจิ ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส และ ด.ญ.นัสริน มามะ ลูกสาววัย 5 ขวบ
เนื่องจากเมื่อปี 2556 พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ขณะเป็นรองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 48 นำกำลังทหารปะทะจับตาย นายสุเพียร มามะ สามีของเธอที่เป็นสมาชิกแนวร่วมก่อความไม่สงบ มีหมายจับตัว 4 หมาย เสียชีวิตอยู่ตรงลานหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านยานิง ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง พร้อมยึดปืนพกสั้นขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก
ผ่านไป 4 ปีเศษเกิดเหตุการณ์สลดกับ “ครอบครัวมามะ” อีกรอบ
สาวม่ายถูกแทงร่างพรุนพร้อมลูกสาวทิ้งศพอำพรางคดีข้ามอำเภออยู่ใต้สะพานบ้านกาหนั้วะ หมู่ 5 ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
ชาวไทยมุสลิมที่นั่นส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า ตำรวจไม่ใส่ใจจะติดตามไขคดีอย่างจริงจัง เหมือนหลายคดีรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพวกเขา โยนเอาสถานการณ์ความไม่สงบเป็นชนวนมรณะแล้ว “แทงยอด” เข้าบัญชีผู้สูญเสียจากการกระทำของโจรใต้
หากทว่า พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ พ.ต.ท.เจฟฟี่ย์ ไศลมานกุล รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรระแงะ รวมถึง พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 45 นายทหารผู้ที่เคยกระทำวิสามัญฆาตกรรมสามีเธอไม่ได้คิดแบบนั้น
ทั้งหมดร่วมกันแกะรอยสืบประวัติหญิงม่ายผู้ตาย พบระยะหลังติดยาเสพติดชอบหายออกจากบ้าน บางครั้งพาลูกสาวติดไปด้วยนานหลายวันจนญาติพี่น้องไม่ค่อยเอะใจกระทั่งกลายเป็นศพถูกฆ่าเลือดเย็น
ตำรวจใช้เวลาสืบสวนแค่ 4 วัน ได้ภาพกล้องวงจรปิดพบเหยื่อกับลูกสาวนั่งรถจักรยายนต์พ่วงเก็บของเก่าขายไปกับ นายฮาซัน เจ๊ะหะ อายุ 30 ปี ชาวอำเภอเจาะไอร้องที่มีประวัติยาเสพติด พ.ต.อ.สุรพงษ์ และพ.ต.ท.เจฟฟรีย์ จึงนำกำลังดักจับกุม
สอบสวนยอมรับสารภาพเป็นฆาตกรลงมือฆ่าเหยื่อสาวที่ขัดขืนไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน
ก่อนเชือดเด็กน้อยปิดปาก
เป็นเวลา 4 วัน 4 คืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารแทบไม่ได้หลับนอนเพื่อคลี่คลายคดีพิสูจน์ให้ชาวบ้านในพื้นที่เห็นถึงความเอาใจใส่ตั้งใจอย่างจริงจัง ไม่มีการแบ่งแยกให้เกิดความรู้สึกเหลื่อมล้ำจนเป็น “เงื่อนไข”คุกรุ่นติดค้างคาใจชาวไทยมุสลิมตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
ทำให้เห็นว่า ไฟใต้จะสงบได้หากถูกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน
ลดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
