“นักข่าวเป็นอาชีพที่สนุกนะ”

นข่าวทีวีสาวน้องใหม่ค่าย “นิวส์โฟกัส”

น้ำฝน”พรสุดา สงวนสุข ชาวกรุง บ้านอยู่ย่านประชาอุทิศ เริ่มต้นวัยเรียนโรงเรียนขจรโรจน์วิทยา ไปต่อมัธยมบางปะกอกวิทยาคม ก่อนเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยความที่อยากเป็นดีเจจัดรายการเพลงตามวิทยุ

ทำไปทำมาสัมผัสวิชาข่าวถึงเปลี่ยนแนวคิดเลือกลงสาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์  “ความจริงอยากฝึกงาน

เธอบอกว่า ประจวบเหมาะกับอาจารย์ที่ปรึกษารู้จักผู้อำนวยการช่องทีวีฟุตบอลสยามของสยามสปอร์ตเลยให้ไปลองฝึกงานเป็นนักข่าวสายกีฬา ทั้งที่ไม่เคยวาดฝันมาเป็นนักข่าว แถมมาเป็นนักข่าวกีฬาอีก ตอนแรกคิดว่า ยาก เพราะไม่รู้เรื่อง ช่องก็เป็นช่องฟุตบอล ดีที่เป็นฟุตบอลไทย เป็นผู้หญิงแล้วทำไมต้องไปทำภาคสนาม เจอแดดร้อนๆ พอทำไปเรื่อยๆ เริ่มสนุก

สาวทีวีรุ่นใหม่ระบายความรู้สึกว่า พอไปทำข่าว ได้ไปเชียร์ฟุตบอลด้วย เริ่มได้อารมณ์ ข่าวส่วนใหญ่ที่ไปเกาะเวลานั้นมักจะตามทีมฟุตบอลเมืองทองยูไนเต็ด ไปกับนักข่าวรุ่นพี่ พอฝึกงานเสร็จ เขาก็ชวนทำงานเลย ตอนนั้นชอบฟุตบอลแล้ว มองว่า ฟุตบอลไทยไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอะไร

ขลุกหาข่าวอยู่ในสังเวียนลูกหนังเมืองไทยนาน 1 ปี เกิดความเปลี่ยนแปลง เมื่อนิวส์โฟกัสเปิดหานักข่าวรุ่นใหม่สายกีฬาเพื่อป้อนข่าวให้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที น้ำฝนลังเลไม่นานก็ตัดสินใจย้ายค่ายมาซบอยู่ที่นี่ เจ้าตัวเล่าว่า ทำข่าวกีฬาที่นิวส์โฟกัสรวมหมด ไม่ใช่ฟุตบอลอย่างเดียวแล้ว มีทั้งเทนนิส ปิงปอง วอลเลย์บอล กีฬาเกือบทุกประเภท ทำให้มีกาสเรียนรู้งานหน้าใหม่ สนุกดี

“นักข่าวเป็นอาชีพที่สนุกนะ เพราะออกไปข้างนอก แต่ละวันจะหมายไม่เหมือนกัน ข่าวกีฬาก็เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรเครียด แต่เราก็ต้องหาข้อมูลเวลาไปทำแต่ละอย่าง เพราะกีฬาแต่ละอย่างก็ไม่เหมือนกัน ทว่ามันสนุก ไม่ได้มีอะไรมาก”

ทำไปทำมาถึงจุดเปลี่ยนอีก เมื่อต้นสังกัดจับโยกให้ไปเป็นนักข่าวสายเศรษฐกิจ เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตก เธอยอมรับว่า ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ ต้องทำข่าวฉีกไปคนละแนว เริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ ท้าทายและยากขึ้น แต่ที่นี่จะเน้นเป็นข่าวสกู๊ป ไม่ใช่ตามหมายรูทีน เหมือนเราได้ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจมากขึ้นนำไปต่อยอดประสบการณ์ข่าว

ปัจจุบันนิวส์โฟกัสหันมาป้อนข่าวให้วอยซ์ทีวี เปิดโลกน้ำฝนกว้างมากกว่าเดิม เธอว่า ได้ความรู้หลายอย่าง อาทิ เรื่องภาษีรถยนต์ ประกอบการตัดสินใจว่าจะซื้อเร็วขึ้นไหม การทำงานเหมือนข่าวรูทีน  แต่หนักไปคนละแบบ คือ ถ้าคิดประเด็นได้ก็จบ ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรมาก อ่านข้อมูล ไปสัมภาษณ์ กลับมาเขียนข่าว

ผ่านสนามข่าวกีฬาและเศรษฐกิจตลอดระยะเวลาเพียง 2 ปีเศษ เด็กสาวยังสนุก และไม่คิดจะย้ายสายไปทำข่าวการเมือง หรือข่าวอาชญากรรม “ข่าวการเมือง มันต้องรอแถลง ยังไม่ได้ลอง เลยไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ เหมือนตอนแรกไปทำข่าวเศรษฐกิจ คิดว่าไม่ชอบแน่ แต่พอได้มาลองก็ชอบ ส่วนข่าวอาชญากรรม คงไม่อยาก เพราะตัวเองเป็นคนที่กลัวผี กลัวศพ ไม่จำเป็นต้องพาตัวเองไปเจออะไรแบบนี้ แม้ดูแล้วมันน่าจะสนุก แต่ยังไม่อยาก”

สำหรับการวางเป้าหมายอนาคต น้ำฝนแสดงความเห็นว่า คงทำไปเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรที่น่าเบื่อ คิดว่า เบื่อยาก เพราะแต่ละวัน แต่ละหมายเปลี่ยนไปเรื่อย ถึงไม่น่าเบื่อ ไม่ซ้ำซาก มันสนุก ประกอบกับเจอเพื่อน ได้เข้าสังคม มีแหล่งข่าวใหม่ๆ ถ้าจะให้ตั้งเป้าหมาย คงต้องบอกไว้ว่า จะทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อ ยึดเป็นอาชีพเราแล้ว

ขณะเดียวกัน เธอสารภาพด้วยว่า  ไม่ได้ฝันจะเป็นผู้ประกาศเหมือนนักข่าวสาวรุ่นใหม่หลายคน ถ้าเป็นผู้ประกาศ คือต้องจริงจัง เราชอบออกภาคสนาม ได้ไปดู ไปรู้อะไรมากกว่า เต็มที่ก็ไปรายงานสด ประกาศข่าวอยู่ในสถานการณ์ภาคสนาม ไม่ใช่นั่งมองสคริปต์อยู่แต่ในสตูดิโอ

RELATED ARTICLES