พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธ์ุ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองวางแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาชาวจีนเข้ามากระทำความผิดต่อชาวจีนด้วยกันในประเทศไทยแล้วหลบหนีออกนอกประเทศ รวมถึงมีบางส่วนเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อหลบหนีการกระทำความผิดมาจากประเทศจีน บางส่วนมีพฤติกรรมเข้ามาก่อตั้งรกรากและประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย
พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธ์ุ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มอบหมาย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง นำคณะกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนในแสวงหาความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลต่างๆที่สำคัญในประเทศจีนหาแนวทางในการสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีประวัติในการกระทำความผิด หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยผ่านตามช่องทางสนามบินและช่องทางด่านต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงติดตามจับกุมผู้ที่มีหมายจับของประเทศจีน ระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2566 ที่เมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีน
พล.ต.ต.พันธนะกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเล็งเห็นความสำคัญของปัญหา มอบหมายให้ตนแสวงหาความร่วมมือ จากการหารือได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมณฑลต่างๆ เป็นอย่างดี ตำรวจจีนได้ส่งข้อมูลผู้ต้องหาที่มีหมายจับที่สำคัญและมีข้อมูลว่าหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยให้ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยช่วยติดตามจับกุมให้หลายเป้าหมายและมีการประสานงานร่วมกันผ่าน contact person ส่งข้อมูลผู้ต้องหาที่มีหมายจับในจีนเพื่อให้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทยลงข้อมูลในระบบเพื่อแจ้งเตือน เมื่อพบว่าผู้ต้องหาเหล่านี้เข้ามายังพรมแดนประเทศไทย เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ในการสกัดกั้นไม่ให้คนจีนเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยในลักษณะดังกล่าวได้
นอกจากนี้ในที่ประชุมตำรวจจีนได้ขอบคุณในความร่วมมือเป็นอย่างดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย รวมถึงสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในอดีตที่ผ่านมาที่ได้ช่วยจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีสำคัญสำคัญในจีนมาดำเนินคดีได้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันตำรวจจีนได้พาคณะตำรวจไทยเยี่ยมชมการทำงานของหน่วยปฎิบัติการพิเศษเมืองหนานจิง Tiger Dragon เป็นชุดปฎิบัติการพิเศษที่ติด 1ใน 5 ของโลก อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้มาสังเคราะห์เพื่อเปิดปฎิบัติการจับกุม พัฒนาทักษะหน่วยปฎิบัติการพิเศษของหน่วยตรวจคนเข้าเมืองรวมทั้งเพิ่มแนวทางสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนจีนที่มีพฤติกรรมในลักษณะทำผิดกฎหมายใช้ไทยเป็นแหล่งพักพิง และประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทยต่อไป
