ถึงเวลาฟ้าเปลี่ยนสีจริงหรือ

 

ปรากฏการณ์ “ฟีเวอร์” กวาดแต้มถล่มทลายของ “พรรคก้าวไกล” ทำให้ต้องจับตาอำนาจการเมืองแบบใหม่ที่อยู่ในกำมือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประวัติศาสตร์ประเทศ

 เขาจะก้าวถึงฝั่งฝัน เขาจะทำฝันนั้นเป็นจริงตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่ ยังคงเป็นคำถามที่ไร้คำตอบในระยะเวลาอันใกล้

เมื่อมี “กำแพงหิน” กั้นขวางเสมือนขวากหนามท้าทายเส้นทางชีวิตนักการเมืองหนุ่มอยู่ข้างหน้า

กระนั้นก็ตามเหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต่างเฝ้าดูเช่นกันกับสิ่งที่โฆษณาชวนเชื่อก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง

โชว์มอตโต กาก้าวไกล ตำรวจไทย ไม่เหมือนเดิม

ว่อนใบปลิวทั่วโลกโซเชียลตามถนัด

แล้วอะไรที่ไม่เหมือนเดิม

พรรคก้าวไกลประกาศให้ “เลือกทรงผมเองได้ ไม่บังคับเกรียน”

ยกเลิกการบังคับตัดผมเกรียน คืนทรงผมให้ตำรวจ คืนความตระหนกรู้ถึงสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตำรวจทุกคน

เงินเดือนโอนตรง โอนครบ ไม่หัก ไม่ทอน ป้องกันการหักเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยงกำลังพล

ชีวิตมั่นคง รายได้-สวัสดิการเหมาะสม เงินเดือนสอดคล้องค่าครองชีพ จัดสรรงบทั่วถึง มีค่าน้ำมัน-อุปกรณ์การทำงานเพียงพอ

ร้องทุกข์ได้อย่างปลอดภัย ด้วยการจัดตั้งผู้ตรวจราชการตำรวจที่เป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับเรื่องร้องเรียน-ปกป้องสิทธิของตำรวจทุกระดับชั้นที่ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง

เติบโต โยกย้ายเป็นธรรม ไร้ตั๋ว-เส้นทาง ก้าวหน้าได้ขึ้นอยู่กับผลงานไม่ใช่ขึ้นอยู่กับว่าเป็น “คนของใคร”

เพิ่มโอกาสเลื่อนยศเป็นสัญญาบัตร เพิ่มโควตาสำหรับตำรวจชั้นประทวนผลงานดีในการเลื่อนยศสู่ระดับสัญญาบัตร

ทำงานกับจังหวัดอย่างราบรื่น จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายความปลอดภัยสาธารณะในทุกจังหวัด มีตัวแทนตำรวจและท้องถิ่นร่วมกันรับใช้ประชาชน

ลดภาระพนักงานสอบสวน เพิ่มอำนาจให้ตำรวจสายป้องกันและปราบปราม ยุติคดีเล็กน้อยได้ โดยไม่ต้องส่งต่อให้พนักงานสอบสวน

ลดภาระงานเอกสาร ลดการใช้เอกสาร เพิ่มการใช้เทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานสอบสวน

มีนักจิตวิทยาเพียงพอ เพิ่มจำนวนและการเข้าถึงนักจิตวิทยา เพิ่มความรวดเร็วของกระบวนการยุติธรรม

ตำรวจทุกเพศโอกาสเท่ากัน ตำรวจหญิงทุกสถานี โอกาสเลื่อนชั้นเท่าเทียมในทุกสานงาน เติบโตเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้

สร้างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นที่ยอมรับของตำรวจทุกคน

พรรคก้าวไกลเสนอแนวความคิดส่งเสริมประชาธิปไตยภายในตำรวจ เพิ่มการมีส่วนร่วมของตำรวจทุกระดับในกระบวนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ปลูกความภูมิใจที่ได้เป็น “ตำรวจของประชาชน”

ยืนยันจะกอบกู้ภาพลักษณ์ตำรวจ รักษาตำรวจน้ำดี ตำรวจอยู่ข้างประชาชนเพื่อให้สังคมกลับมาเชื่อมั่นในตำรวจไทย

สรุปการขึ้นครองอำนาจของพรรคก้าวไกล “ตำรวจไทย ไม่เหมือนเดิม” จริงหรือ

คือสิ่งที่ “กองทัพสีกากี” ต้องการแบบนี้ใช่ไหม

 

RELATED ARTICLES