“ตำรวจต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่าใส่เกียร์ว่าง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลั่นคำประกาศิต
สะกิดผู้ปฏิบัติภาคสนามอย่ามัววิตกกังวล พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ
ท่ามกลางคำถามมากมายระคนอาการกระวนการกระวายเหมือนออกกฎหมายออกมา “พิทักษ์โจร” เรียกร้องสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้แก่ผู้กระทำความผิด
ทั้งที่หลายคนป่วยจิตเต็มไปด้วยสันดานดิบของ “เดนมนุษย์” พฤติกรรมยิ่งกว่า “สัตว์เดรัจฉาน”
ตระเวนลักวิ่งชิงปล้นฆ่าข่มขืนและค้ายาเสพติด
ต่อไปตำรวจอาจต้องก้มกราบเพื่อขอจับกุม มือหนึ่งถือปืน อีกมือต้องถือกล้องโทรศัพท์บันทึกภาพ แต่หากผู้กระทำความผิดขัดขืนไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดี ยุทธวิธีตำรวจหลายยุคหลายสมัยยังใช้ได้หรือไม่ระหว่างเข้าควบคุมตัวสวมเครื่องพันธนาการ
กลายเป็นว่าพวกเขา “สุ่มเสี่ยง” ต่อคุกตะรางมากกว่าคนร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์เสียอีก
อนิจจา “สังคมโลกสวย” แต่แทบไม่คำนึงถึงสิทธิผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อเลยด้วยซ้ำ
สาระสำคัญการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อ “ปรับตัว” ตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565
เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐมีการจับกุมและควบคุมผู้ต้องหาจากความผิดซึ่งหน้า จับตายหมายจับ และระงับเหตุต่าง ๆ ต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องจนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน หรือปล่อยตัวไป (เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย)
ตำรวจผู้ปฏิบัติต้องพกอุปกรณ์ (กล้อง) และท่องไว้เสมอว่า ขั้นตอนการจับกุมจำเป็นต้องกำหนดตัวเจ้าหน้าที่ในการบันทึกภาพและเสียง
ส่วนข้ออ้างกรณีสุดวิสัย คือ ไม่ได้พกอุปกรณ์ หรืออุปกรณ์ชำรุด เห็นความผิดซึ่งหน้า หากเนินช้าเกรงว่า ผู้กระทำผิดจะหลบหนี หรือกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องจับ ควบคุมตัว หรือเป็นการจับโดยเจ้าหน้าที่ขณะเกิดเหตุไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เวร หรือไม่มีอำนาจเกี่ยวข้อง
ผู้ถูกจับต่อสู้ขัดขวางขณะเข้าทำการจับกุม ควบคุมตัว หากถ่ายภาพและเสียงอาจเกิดอันตรายแก่เข้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ
ขั้นตอนต่อไปต้องทำบันทึกข้อมูลผู้ถูกควบคุม มีรายละเอียด ประกอบด้วย วันเวลา สถานที่ควบคุม เจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกคำสั่งให้ควบคุมตัว ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ถูกควบคุมตัว ข้อกล่าวหาหรือพฤติการณ์การจับ
การทำบันทึกการจับกุมหรือควบคุม ตั้งแต่ ข้อหา / ฐานความผิด พฤติการณ์การกระทำความผิดหรือถูกจับ ควบคุมตัว วัน เวลา สถานที่จับกุม การแจ้งสิทธิผู้ถูกจับกุม/แจ้งญาติ
การควบคุมตัวต้องตามแบบฟอร์ม หรือวิธีการแจ้งญาติให้ทราบถึงสถานที่ควบคุม (ญาติมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลการควบคุมตัว) เป็นไปตามระเบียบระเวลาการควบคุมตามกฎหมายระบุไว้
หลังจากนั้นต้องแจ้งพนักงานอัยการ และฝ่ายปกครองในท้องที่ที่มีการควบคุมโดยทันทีตามแบบฟอร์มการแจ้งการจับกุม/ควบคุม ด้วยวิธีการออกเป็นหนังสือ โทรสาร และทางอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งหมดดูเหมือนไม่ลำบากยุ่งยาก แต่การปฏิบัติไม่ง่ายอย่างที่วาดฝันไว้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เจ้าสำนักปทุมวันยังออกมายอมรับถึงปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้มีไม่พอ แต่พยายามหมุนเวียนใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเรียกประชุมหน่วยงานปฏิบัติการเพื่อวางแนวทางไปพลางก่อนภายใต้ปัจจัยที่มีอยู่
เจ้าตัวย้ำเจตนารมณ์ตามกฎหมายที่ออกมาเพราะไม่อยากให้มีการทำอะไรที่ไม่ดีเวลาจับกุมควบคุมตัวไม่ให้ซ้อมทรมาน หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
นอกจากบันทึกภาพและเสียงขณะจับกุมแล้ว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ยังเป็นห่วงเรื่องการจัดเก็บข้อมูลต้องจนถึงคดีสิ้นสุด หรือขาดอายุความ ดังนั้นต้องมีหน่วยจัดเก็บจำนวนมากเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่ให้เกิดข้อบกพร่อง
ปิดโอกาสผู้ต้องหาจะนำมาเป็น “ช่องโหว่” ของกลไกรัฐไปต่อสู้ทางคดี
ขณะที่ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงถึงปัญหาไม่ต่างกันเกี่ยวกับบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือยังได้รับไม่ครบถ้วน ต้องจัดสรรเเชร์กันไปก่อนเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ยืนยันมีพนักงานอัยการเข้าเวรรับเรื่อง 24 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
“เดิมเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกยังขาดอุปกรณ์คงสถานะเดียวกับอัยการยังไม่มีอุปกรณ์ปฏิบัติครบถ้วนตามกฎหมาย แต่เราจะนำสิ่งที่มีอยู่มาทำงานกันไปให้ได้ก่อน แล้วขอสนับสนุนงบจากภาครัฐเพื่อทำตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ ในชั้นนี้ ถ้ามีอะไรอัยการพร้อมร่วมมือเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะศาลรัฐธรรมนูญบอกให้ใช้ทุกมาตราแล้ว การรายงานการจับกุม บันทึกภาพเสียง ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ถ้ามีอุปสรรคให้หารือมา เราจะให้คำแนะนำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดละเมียดข้อมูล
ช่วงที่ฝ่ายปฏิบัติกำลังชุลมุนหัวหมุนกลัวพลาด