ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตรำวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย นายอุดมชัย โลหะณุต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 พ.ต.ต.ปัณณวัชร์ จิรัฐธรรมฤทธิ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 และชุดปราบปรามยาเสพติดกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ร่วมกันจับกุมนายต้น ตาใจ อายุ 25 ปี ชาวเชียงราย และนายณรงค์เกียรติ ดวงศรี อายุ 25 ปี ชาวสุพรรณบุรี พร้อมอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 แม็ก บรรจุกระสุนจำนวน 16 นัด ยาบ้า 3,080,000 เม็ด ยาไอซ์ 24 กิโลกรัม ยาอี รวมประมาณ 9,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 64/22 หมู่บ้านกิตติชัย 12 ม.2 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
สืบเนื่องเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนผู้ค้ายาเสพติดทางสื่อออนไลน์ทวิตเตอร์ จนสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดโดยการโพสต์ขายทางทวิตเตอร์ นำไปขยายผลจับกุมอีก4คน ผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายฝั่งธน ได้ของกลางยาบ้า 228,800 เม็ด ยาไอซ์ 33กิโลกรัม เคตามีน 36กิโลกรัม เฮโรอีน 1 กิโลกรัม จากากนั้นจึงขยายผลจับกุมผู้ต้องหารายนี้
จ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเฝ้าสะกดรอยกว่า 2 เดือน ติดตามพิสูจน์ทราบตัวบุคคลคือนายต้น และนายณรงค์เกียรติที่นำยาเสพติดมาส่งและทราบสถานที่เก็บยาเสพติดอยู่ที่ย่านพุทธมณฑล จนกระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 00.45 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 64/22 หมู่บ้านกิตติชัย 12 หมู่ 2 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม บ้านพักที่ใช้ในการเก็บยาเสพติด พบผู้ต้องหาทั้งสอง นายณรงค์เกียรติ ถือถุงพลาสติกอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวตรวจค้น พบว่าพกอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มิลลิเมตรพร้อมแม็กกาซีน บรรจุกระสุนจำนวน 16 นัด
เจ้าหน้าที่ตำรวสอบถามนายต้นและนายณรงค์เกียรติให้การยอมรับว่า ภายในบ้านพักมียาเสพติดหลายรายการซุกซ่อนอยู่ ได้ด้สมัครใจและยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้าน กระทั่งพบยาเสพติดของกลางที่บริเวณชั้น1 ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นเจ้าของยาเสพติดจริง มีหน้าที่ในการนำยาเสพติดมาเก็บไว้ในบ้านพัก และรับคำสั่งจากผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อว่า “ตะเวน แสวงหา” พักอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน สั่งการให้นำยาเสพติดไปส่งลูกค้าได้รับค่าจ้างคนละประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ทำมาแล้ว 2 ปี รับยาเสพติดจากจังหวัดทางภาคกลางมาพักไว้ที่บ้านเช่าพุทธมณฑล ก้อรแบ่งหน้าที่นายต้นทำหน้าที่ขับรถ นายณรงค์เกียรตินำของไปส่งตามจุดที่มีการนัดหมาย ส่วนมากเป็นปริมณฑล ผู้สั่งการอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุม จากการขยายผลตรวจสอบข้อมูลการสนทนา พฤติกรรมอยู่ในบ้านเช่าบ้านเพื่อเก็บยาโดยเฉพาะ
