“พีร์”ณิชกานต์ เบญจศิริ ลูกสาวคนโตของ พล.ต.ต.สัมพันธ์ เบญจศิริ ผู้บังคับการประจำ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
วัยเด็กเรียนอุดมศึกษา ไปต่อบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ถึงชั้น ม.5 ตัดสินใจไปเรียนต่อ Billanook College ที่ประเทศออสเตรเลีย เหตุที่ผู้พ่อไปเจอเจ้านายคุยเรื่องมีลูกสาวไปเรียนอยู่ต่างประเทศแล้วกลับมาเล่าให้ฟัง
“ฟังแล้วน่าสนุกดี อยากลองไปดูบ้าง” พีร์เผยจุดเริ่มต้นพลิกชีวิตห่างจากบ้านเกิด เธอบอกว่า ตอนแรกจะเรียนสายวิทย์ แต่ไม่ชอบ ไม่อยากเป็นหมอ หรือวิศวะ เลยเปลี่ยนไปเรียนศิลปคำนวณ อยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่เริ่มรู้ตัวเองว่า ภาษาอังกฤษไม่เก่ง ถ้าได้ไปเรียนต่างประเทศน่าจะได้ภาษาอังกฤษกลับมาจึงตัดสินใจไปออสเตรเลีย
เธอเล่าว่า ไปเรียนต่างประเทศครั้งแรกในระดับมัธยมศึกษาที่ออสเตรเลีย การเรียนการสอนของที่นั่นแตกต่างจากที่ไทยมาก ในชั้นเรียนจะมีประมาณ 25 คน เป็นห้องเล็กๆ นักเรียนกับอาจารย์ผู้สอนใกล้ชิดกันมาก นักเรียนจะกล้าถาม กล้าแสดงความคิด กล้าแสดงออก อาจารย์ก็ดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง
เรียนอยู่แดนจิงโจ้นาน 2 ปี สะสมวิชาจนจบหลักสูตรระดับชั้น Year 12 ลูกสาวนายตำรวจหนุ่มก็กลับเมืองไทยเข้าศึกษาต่อคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แม้จะเรียนได้ดี แต่ก็ไม่อยากเป็นนักบัญชี พอจบปริญญาตรีเลยสมัครไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ เกี่ยวกับวิชากฎหมายการจัดเก็บภาษีอยู่ London School of Economics and Political Science
“การไปเรียนต่างประเทศมีทั้งสิ่งที่ดี และไม่ดี ถ้าเราเลือกทำแต่สิ่งดีๆ ก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ ไม่ทำให้พ่อและแม่ผิดหวัง แต่ความจริงคุณพ่ออยากให้พีร์เรียนต่อจนจบปริญญาเอกด้วยซ้ำ แต่พีร์ขอปริญญาโทก่อน เพราะอยากทำงาน” สาวนักเรียนเมืองผู้ดีบอก
“หลักสูตรที่เรียนแค่ปีเดียวก็ได้ปริญญาโทแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องภาษีมรดกเพื่อส่งกลับไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย ช่วงนี้ก็เป็นเวลาได้ผ่อนคลายบ้าง ไปสมัครงานไว้หลายที่แล้ว แค่รอเรียกสัมภาษณ์” พีร์อธิบายหลังไปสมัครทำงานที่ธนาคารชาติ และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลุ้นกับงานครั้งแรกในชีวิต
เมื่อถามถึงพ่อ ตัวเธอยอมรับว่า สนิทกับพ่อมาก มีปัญหาอะไรจะปรึกษากับพ่อตลอด รู้สึกดีใจที่มีพ่อเป็นตำรวจ เป็นอะไรที่พึ่งและปรึกษาได้ในทุกเรื่อง “เท่ดีที่มีคุณพ่อเป็นตำรวจ ทำให้มีโอกาสรู้จักตำรวจอีกมุมที่คนทั่วไปอาจมองว่า ตำรวจชอบรีดไถเอาเงิน เพราะเป็นงานที่ใกล้ชิดประชาชนตลอดเวลาจนต้องเก็บเอาไปคิด ไม่เหมือนทหารมีเรื่องอะไรก็ระดมกันออกมาช่วยเหลือประชาชนจนภาพดูกลายเป็นฮีโร่ ทั้งที่ตำรวจดี ๆ ก็มีเยอะแยะ ไม่ใช่ที่ทุกคนจะเป็นแบบชาวบ้านคิดเสมอไป”
“อย่างคุณพ่อพีร์ก็เป็นตำรวจที่ดีคนหนึ่ง คุณพ่อเป็นศูนย์กลางของบ้าน มีอะไรลูก ๆ จะไปหาคุณพ่อเป็นคนแรกเพื่อปรึกษา และขออนุญาตในหลายเรื่อง พีร์ถึงภูมิใจในตัวคุณพ่อมาก” สาวทายาทรองผู้การแสดงความรู้สึกด้วยรอยยิ้ม
