นักการเมืองสาวหัวใจสิงห์

 

“ตั๊นไหวค่ะ”

จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่งสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ต่อการจากไปของ จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี บิดาบังเกิดเกล้า

ทำให้ผู้ใหญ่กังวลเกี่ยวกับสภาพจิตใจในการจะทำภารกิจ ลอยลมดิ่งเวหา กับ ตำรวจพลร่มหญิงเป็น “แขกวีไอพี” ในพิธีสสวนสนามเทิดเกียรติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวาระเยี่ยมอำลาหน่วยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  ที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ค่ายนเรศวร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

“ตั๊นไหวค่ะ ตั๊นแยกแยะได้” เธอยืนยันคำเดิมกับกิจกรรมที่ตั้งใจและทุ่มเทมาตลอดหลายเดือน

ภาพติดลบของเธออาจกลบเกลื่อนความรู้สึกของตำรวจส่วนใหญ่ไม่ได้ ทั้งที่ภาพเหตุการณ์ชุมนุมครั้งก่อนฉายวนไปวนมาอย่างไรก็ไม่ใช่สาว “เป่านกหวีด” ไปยืนทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ที่ผ่านมาเธอพยายามแจงข้อเท็จจริง แต่โลกปัจจุบันปลุกปั่นให้เกิดความเสียหายจนกลายเป็นเรื่อง “ฝังใจ” ไม่สนถูกผิด

กระนั้นก็ตาม หลังเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ เธอได้เข้ามามีบทบาทในการผลักดันงบประมาณหลากหลายของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อมีโอกาสลงไปคลุกคลีเยี่ยมหน่วยตามถิ่นทุรกันดาร ทำให้สัมผัสความขาดแคลนที่รัฐบาลมองผ่านไป

เช่นเดียวกับงบประมาณอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของหน่วย “นักรบป่า” ที่เธออยากเข้าใจว่ามีความสำคัญอย่างไร เพื่อสามารถไปเป็น “กระบอกเสียง” อภิปรายในรัฐสภา

สุดท้าย พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สมัยนั้น พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม เมื่อครั้งยังเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ทำเรื่องถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถามความสมัครใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนไหนสนใจอยากเข้ามาร่วมฝึกกระโดดร่มกับ “หลักสูตรหิน” ของกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ

จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร เป็นนักการเมืองหญิงคนเดียวอาสาเข้าร่วม พร้อมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายชายอีก 2 คนที่ถอดใจไปในตอนหลัง

เธอต้องผ่านจุดเริ่มต้นในการเทสต์ร่างกาย ทั้งวิ่ง ว่ายน้ำ ทำแบบข้อเขียนทดสอบสภาพจิตใจไม่ต่างจากการฝึกของนักเรียนนายร้อยตำรวจกว่าจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ หลักสูตรสกาย 1/64 ร่วมทีมตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร กระโดดร่มแบบกระตุกเอง

“ขึ้นหอวันแรกถึงกับขาสั่น” เจ้าตัวระบายความรู้สึก

ก่อนหน้าเธอต้องไปโดดร่มกลม 5 จั๊มก่อนเพื่อให้เกิดความชำนาญ

ฝึกฝนจนปรับตัวขึ้นบนเหนือท้องฟ้าดิ่งพสุธามาแบบสกาย

“ครั้งที่ 2 เชื่อไหมว่าร่มหลักไม่สมบูรณ์ ต้องใช่ร่มสำรองช่วย” เธอต้องแก้วิกฤติเฉพาะหน้ากลางอากาศที่เหวี่ยงสะบัดตัวเพราะร่มหลักไม่ทำงาน

“เกือบถอดใจไม่เอาแล้ว”

โชคดีได้ ครูอ้อ –ร.ต.อ.หญิง จิราภรณ์ เพทไสย นายตำรวจสาวนักกระโดดร่มมืออาชีพของเหล่านักรบฟาติกมาเป็นพี่เลี้ยงคอยปลอบขวัญจนผ่านการอบรมหลักสูตรความสูงหมื่นฟุตประดับ “ปีกร่ม” บนหน้าอกเสื้อ

“ตื่นเต้นทุกครั้งจนความกลัวค่อย ๆ หายไป มันเป็นความท้าทายมาก ต้องอาศัยกำลังกายและจิตใจ ตั๊นตั้งใจแล้วต้องทำให้ได้” เจ้าตัวพยายามลบคำปรามาส

ทำให้เธอเอาความรู้ที่ได้รับรสชาติไปเขียนแผนของบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎรถึงความจำเป็นในหลักสูตรฝึกอบรมเสริมทักษะของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ

ทำให้เธอเข้าใจหน่วยตำรวจตระเวนชายแดนมากขึ้น และรู้สึกผูกพันจนได้รับเชิญมาเป็น “แขกวีไอพี” ในพิธีสวนสนามอำลาหน่วยของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กระโดดร่มลงมาพร้อม  ร.ต.อ.หญิงจิราภรณ์  เพทไสย  ร.ต.ต.ศิริพร  พรหมลี  ด.ต.เชิด  พันธะทัน  จ.ส.ต.หญิงอรอนงค์ จิตตะไสย  จ.ส.ต.หญิง อภิชญา  นาเจริญ  จ.ส.ต.หญิง แคทลียา  ดวงสว่าง 

พิสูจน์หัวใจสิงห์ของนักการเมืองสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อ

RELATED ARTICLES