เพราะมันเป็นหน้าที่

 

ครอบครัวตัวเองแทบไม่ได้ดูแล แต่ต้องไปดูแลใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จัก

นั่นคือ หน้าที่ของคำว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อาชีพที่ “ต้องคำสาป” ถูกด่าทอว่าร้ายอยู่เป็นประจำ ทว่าเมื่อถึงเวลามีภัยเหล่าผู้พิทักษ์เหล่านี้จะอยู่เคียงข้างเสมอ

เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงมีข้อสั่งการด่วนที่สุด ให้ตำรวจทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัยเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พุทธศักราช 2558

มอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และจัดระบบจราจรในพื้นที่ประสบภัย และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ

โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดตาก จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดแพร่ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งพื้นที่ ๆ ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างใกล้ชิด

นำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ (รถยนต์/เรือ) อุปกรณ์อื่นๆ ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่โดยด่วน

ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องดูแลเอาใจใส่บำรุงขวัญ และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลกระทบด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังเน้นเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ วางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ป้องกันมิให้ถูกคนร้ายฉวยโอกาสช้ำเติมผู้ประสบภัย

จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อบูรณาการกับทุกภาคส่วน รวมทั้งจิตอาสาในพื้นที่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุสาธารณภัยอย่างใกล้ชิดพร้อมออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยอย่างทันที

กระนั้นก็ตาม เจ้าตัวไม่ได้สั่งงาน “ปากเปล่า” ผ่านโลกออนไลน์นั่งสบายอยู่ในห้องแอร์บนบัลลังก์งาช้างของสำนักปทุมวัน หลังจากนำคณะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนขึ้นเหนือลงเดินลุยน้ำตรวจเยี่ยมพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อม พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มอบถุงยังชีพและเงินบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วยเช่นกัน

มี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จัดตั้งโรงครัวออกช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันแรกที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบหลายปี  พร้อมทั้งมีชุดปฏิบัติการจราจรที่ออกอำนวยความสะดวกช่วยประชาชนมาต่อเนื่อง

แม้ว่าพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 จะถูกน้ำท่วม ทั้งตำรวจและครอบครัวต่างเดือดร้อนจากอุทกภัย แต่ไม่เคยละทิ้งหน้าที่

“ขอให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน เสียสละ แม้ว่าตำรวจเราเองจะเดือดร้อน เราจะทอดทิ้งประชาชนไม่ได้ ยึดหลักความ เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ว่า

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือด่วนที่สุดถึง พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท่วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ พล.ต.ต. สุทธิพงษ์ เพชรรักษ์ ผู้บังคับการกองบินตำรวจ

เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี มีน้ำท่วมสูง การคมนาคมถูกตัดขาดในหลายหมู่บ้าน การช่วยเหลือในพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ มีความจำเป็นต้องใช้ “เฮลิคอปเตอร์” ในการขนส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และสิ่งอุปกรณ์จำเป็นให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน

พร้อมกันนั้นยังขับเคลื่อน จิตอาสาพระราชทาน ตามแนวทางการปฏิบัติจิตอาสาภัยพิบัติแห่งชาติลงเข้าช่วยเหลือประชาชนอีกแรงหนึ่ง

เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมายให้ คุณรงรอง ภูริเดช ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำจิตอาสาตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค ของใช้จำเป็นและน้ำดื่ม บริเวณจุดช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่น้ำท่วมขังของจังหวัดอุบลราชธานี บางครอบครัวน้ำท่วมมิดหลังคา ไม่สามารถอยู่ได้

ล่องเรือตระเวนมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือต่างรู้สึกดีใจและขอบคุณแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลางที่ไม่ทอดทิ้งประชาชนที่เดือดร้อน ขาดแคลนอาหาร เครื่องดื่ม

ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไม่อาจปฏิเสธ หรือหลีกเลี่ยงได้

แม้ตัวเองและครอบครับกำลังประสบภัยหนักหนาไม่ต่างกัน  

RELATED ARTICLES